365WECARE

ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia) คืออะไร? อันตรายและวิธีป้องกัน

ต่อมลูกหมากโต (BPH) คือภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้นตามวัย มักพบในผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป ส่งผลให้ปัสสาวะติดขัด ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน หรือรู้สึกปัสสาวะไม่สุด หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือปัญหาที่ไตได้ การตรวจเช็กสุขภาพต่อมลูกหมากอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน สามารถช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาอาการของภาวะนี้ได้

 

ต่อมลูกหมากโตคืออะไร อันตรายไหม ป้องกันอย่างไรได้บ้าง? 

 

   ต่อมลูกหมากโต คือ ต่อมกลมเล็กๆ ที่อยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะและตรงกลางของต่อมจะมีท่อปัสสาวะซึ่งส่งผ่านปัสสาวะ ลงมาทางอวัยวะเพศชาย ทำหน้าที่ผลิตของเหลวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของน้ำอสุจิที่ช่วยเคลื่อนย้ายอสุจิระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ปัญหาต่อมลูกหมากโตมักไม่ค่อยพบในวัยรุ่น แต่โอกาสการเกิดจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในผู้ชายวัยตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามจาก การวิจัยของสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้ชายอายุเกิน 50 ปีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งมีอาการต่อมลูกหมากโตหรือที่เรียกว่า Benign Prostatic Hyperplasia (BPH) ส่งผลให้เกิดอาการปัสสาวะติดขัด นอกจากนี้ ยังส่งผลให้อสุจิที่ถูกหลั่งออกมาไหลกลับเข้าไป ในกระเพาะปัสสาวะได้ หากไม่ได้รับการรักษาก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ ทางเดินปัสสาวะและไตได้ใน อนาคต

   ต่อมลูกหมากเป็นต่อมที่อยู่ รอบท่อปัสสาวะส่วนต้น บริเวณโคนอวัยวะเพศของผู้ชาย หน้าต่อท่อทวารหนักไม่สามารถตรวจพบได้ภายนอก จำเป็นต้องใช้วิธีการตรวจผ่านทางทวารหนัก บางคนเข้าใจผิดระหว่างลูกอัณฑะซึ่งสามารถตรวจได้จากภายนอก ต่อมลูกหมากมีหน้าที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงเชื้ออสุจิ สารที่เป็นของเหลวประมาณ 30% ของน้ำอสุจิถูกสร้างจากต่อมลูกหมาก ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย ฉะนั้นโรคของต่อมลูกหมากจึงเกิดได้ในเฉพาะผู้ชาย ในผู้ชายที่โตเต็มที่จะประมาณเท่ากับลูกเกาลัด เมื่ออายุมากขึ้นจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และเนื้อเยื่อมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเนื้องอก(ชนิดธรรมดา ไม่ใช่เนื้องอกมะเร็ง) ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โตขึ้นเชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย และฮอร์โมนเพศชาย โรคต่อมลูกหมากโต คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ซึ่งชาวตะวันตกมักเปรียบเทียบขนาดปกติของต่อมลูกหมากว่าเท่ากับขนาดของผลวอลนัท (walnut-size) ตำแหน่งของต่อมลูกหมากจะอยู่ในบริเวณใต้กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากทำหน้าที่สร้างสารที่เป็นของเหลวประมาณ 30% ของน้ำอสุจิ 

 

สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต 

 

   โรคต่อมลูกหมากโต คือ ภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่มากขึ้น ประกอบกับมีการกระตุ้นจากระบบประสาทมากขึ้นบริเวณหูรูดกระเพาะปัสสาวะ และต่อมลูกหมาก ขนาดต่อมที่โตขึ้นจะไปกดเบียดทางเดินปัสสาวะ ส่วนการกระตุ้นจากระบบประสาทจะทำให้บริเวณหูรูด และทางออกของปัสสาวะมีการหดเกร็งมากขึ้นกว่าปกติ โดยกลไกการกระตุ้นจากระบบประสาทมีผลทำให้เกิดอาการต่างๆ มากกว่าขนาดต่อมลูกหมากที่โตขึ้น ซึ่งเราจะพบได้มากในคนไข้ชายสูงอายุ ส่วนมากอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่พบได้เป็นปกติในผู้ชาย และการเกิดขึ้นมักจะสัมพันธ์กับอายุ และฮอร์โมนเพศชาย มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า 50% ของผู้ชายที่เป็นโรคต่อมลูกหมากนั้นมีอายุประมาณ 60 ปี   

   ต่อมลูกหมากจะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึนเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเนื่องจากอายุที่มากขึ้น โดยเปลี่ยนฮอร์โมน เพศชายเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ไปเป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) หรือ DHT ส่งผล ท้าให้การสร้างเซลล์ต่อมลูกหมากมากกว่าปกติ ต่อมลูกหมากจึงโตขึ้นจนไปปิดกั้นท่อปัสสาวะ รบกวนการปัสสาวะและท้าให้ ปัสสาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะได้ไม่หมด เป็นสาเหตุหนึ่งที่ท้าให้เสี่ยงเกิดโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากเกิดการสะสมของ โปรตีนบางชนิดของเส้นประสาทในสมอง เช่น อะไมลอยด์ (amyloid) และ ทาว (tau) มากกว่าปกติ

 

 

โรคต่อมลูกหมากโต มีอาการอย่างไร 

 

 ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ รวมถึงการลุกขึ นมาปัสสาวะตอนกลางคืน 

 

 ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ 

 

✿ ปัสสาวะเป็นสายเล็กลงหรือต้องออกแรงเบ่งมากขึ้น

 

 ปัสสาวะลำบาก 

 

 ปัสสาวะไม่ต่อเนื่องหรือขาดตอน 

 

 มีอาการเจ็บขณะปัสสาวะ 

 

รู้สึกปัสสาวะไม่สุด 

 

 ควบคุมการปัสสาวะไม่ได้ 

 

 ปัสสาวะมีเลือดปน 

 

   หากเริ่มมีอาการใดอาการหนึ่งดังข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจที่จ้าเป็นและการตรวจเลือดเพื่อประเมิน อาการของต่อมลูกหมากโต

 

 

ภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นเมื่อละเลยการรักษา 

 

 ปัสสาวะเป็นเลือด 

 

 กระเพาะปัสสาวะครากหรือมีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ท้าให้ไม่สามารถขับปัสสาวะออกได้หมด ส่งผลให้กระเพาะ ปัสสาวะอักเสบ 

 

 การทำงานของไตเสื่อมลงและไตวายได้ 

 

 

 

การรักษาและป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต 

 

 การใช้ยารักษาโรคซึ่งเป็นวิธีพื้นฐานในการรักษาเพื่อลดการหดเกร็ง อาการบวมของท่อปัสสาวะและต้องอยู่ในการ ดูแลของแพทย์เท่านั้น อาจใช้เพียงตัวเดียวหรือมากกว่า 1 ตัวร่วมกันก็ได้ 

 

 การผ่าตัด (Transurethral Prostatectomy) 

 

 การใช้คลื่นความร้อน เช่น ไมโครเวฟ คลื่นวิทยุสำหรับผู้ป่วยที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัด 

 

 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

 

   1. เลี่ยงการดื่มน้ำ 1-2 ชั่วโมงก่อนนอนเพื่อลดการปวดปัสสาวะในเวลากลางคืน 

 

   2. งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน 

 

   3. ออกกำลังกายด้วยการเดินวันละ 30-60 นาที 

 

   4. งดการทานยาลดน้ำมูกหรือยาแก้แพ้แบบง่วงเนื่องจากตัวยาอาจท้าให้เกิดการหดตัวของท่อปัสสาวะ 

 

   5. ไม่อั้นปัสสาวะ 

 

   6. ลดน้ำหนัก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

 

   7. ฝึกเข้าห้องน้ำ ควรเข้าทุกๆ 4-6 ชั่วโมง เหมาะส้าหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ปัสสาวะบ่อยและไม่สามารถกลั้นได้

 

โรคต่อมลูกหมากโตป้องกันได้หรือไม่ ?

 

   ขณะนี้ยังไม่ได้ เพราะสาเหตุของต่อมลูกหมากโตยังไม่แน่ชัด และเป็นการเปลี่ยนแปลงตามวัย ฮอร์โมนที่มีส่วนทำให้ต่อมลูกหมากโตได้แก่ฮอร์โมนเพศชายสร้างจากอัณฑะ ถ้าผู้ชายที่ตัดอัณฑะออกก่อนวัยรุ่นก็จะไม่มีต่อมลูกหมากโต แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากอาจเกิดผลเสียจากการขาดฮอร์โมนมากกว่า การทำหมันชายไม่มีส่วนกับการเกิดอาการต่อมลูกหมากโต ดังนั้นปัจจุบันคำแนะนำคือ เฝ้าระวังการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากโดยไปปรึกษาแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง

 

 

เป็นต่อมลูกหมากโตแล้วจะกลายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ ?

 

   โดยทั่วไปแล้วโรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมากมักเกิดในผู้ชายสูงอายุ และอาการของโรคทั้ง 2 กลุ่มนี้คล้ายกันมากทำให้การตรวจค้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตามโรคทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นคนละชนิดกัน และไม่มีการเปลี่ยนสภาพจากต่อมลูกหมากโตไปเป็นมะเร็งได้ แต่เราอาจพบร่วมกันได้

 

เอกสารอ้างอิง 

 

∙ D. Bach, L. Ebeling. Long-term drug treatment of benign prostatic hyperplasia-results of a prospective 3-years multicenter study using Sabal extracts IDS 89. Phytomedicine, 1996; 3(2): 105- 111. 

∙ ต่อมลูกหมากโต. [Internet]. เข้าถึงได้จาก: https://www.pobpad.com/ต่อมลูกหมากโต ∙ ผศ. นพ. กิตติพงษ์ พินธุโสภณ. รู้รอบโรคต่อมลูกหมากโต. [Internet]. เข้าถึงได้จาก: 

https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=189

 

 

D. Bach, L. Ebeling. Long-term drug treatment of benign prostatic hyperplasia-results of a prospective 3-years multicenter study using Sabal extracts IDS 89. Phytomedicine, 1996; 3(2): 105-111.

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

365wecare call365wecare Line365wecare Facebook365wecare Tiktok

ฝ่ายบริการลูกค้า

080-365-3696

ติดตามเราได้ที่

หน้าหลัก

shopping_cart
0

ตะกร้าสินค้า

แบรนด์

โปรโมชั่น