แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
Computer Vision Syndrome (CVS) คือ กลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือจอดิจิทัลติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการตาล้า ปวดศีรษะ ตาแห้ง หรือมองเห็นไม่ชัด สาเหตุหลักมาจากการใช้สายตาในระยะและมุมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงความสว่างหน้าจอที่ไม่พอดี หากละเลยอาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและสุขภาพดวงตาในระยะยาว การตระหนักรู้และปรับพฤติกรรมการใช้หน้าจอจึงเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยง CVS
เราจะทำอย่างไร เมื่อชีวิตประจำวันที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ส่งผลให้สุขภาพดวงตาเสื่อมโทรม เป็นที่ทราบกันดีว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์จะทำให้เกิดปัญหาอย่างเช่น อาการปวดรอบดวงตา ปวดศีรษะ ตาแห้ง ฯลฯ ซึ่งหากปล่อยไว้ นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลดลงแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาวด้วย ดังนั้นเราจะทำอย่างไร ในการดูแลรักษาดวงตาของเราจากเทคโนโลยีปัจจุบัน
รู้จักกับ Computer Vision Syndrome (CVS) เป็นกลุ่มของอาการทางตาและการมองเห็น ที่มีผลมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งความรุนแรงของอาการจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการใช้งานอันที่จริงแล้ว เวลาทำงานกับคอมพิวเตอร์นั้น ดวงตาของคนเราจะถูกใช้งานแตกต่างจากการอ่านตัวอักษรบนหน้ากระดาษ ไม่ว่าจะเป็นระยะการมองหรือมุมที่ต้องก้มขณะที่อ่าน และบ่อยครั้งที่พบว่าตัวอักษรบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นมีความชัดเจนไม่เพียงพอ รวมทั้งความเข้มหรือความสว่างของหน้าจอซึ่งถูกปรับตั้งไว้ไม่เหมาะสมในขณะใช้งาน ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนทำให้เราต้องใช้สายตามากกว่าปกติในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์และส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้าจากการใช้งานดังกล่าวเป็นระยะเวลานานได้ ซึ่งพบว่าผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง จะมีความเสี่ยงที่จะเป็น Computer Vision Syndrome ได้สูง
โรคซีวีเอส (CVS) เกิดจากพฤติกรรมการมองจอภาพเป็นเวลานานๆ ต่อเนื่องเกินสองถึงสามชั่วโมงต่อวัน เพราะต้องใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาและประสาทตาในลักษณะเพ่งจอตลอดเวลา จนเกิดอาการดวงตาล้า แสบตา ตามัว ตาแห้ง น้ำตาไหล มองเห็นภาพซ้อน ตาโฟกัสช้า เคืองตา และบ่อยครั้งมีอาการปวดหัว ปวดคอ ปวดไหล่ หรือปวดหลังร่วมด้วย ระดับความรุนแรงของอาการจะเพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาที่ใช้สายตาอยู่หน้าจอ ซึ่งทั้งหมด คือ สัญญาณเตือนของการเกิดโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม
▶ ตาล้า
▶ ตามัว
▶ ตาโฟกัสช้า
▶ เห็นภาพซ้อน
▶ ปวดตา ปวดหัว คอ ไหล่ หลัง ตามมา
▶ แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล
▶ ตาแห้ง
▶ ขณะจดจ่อกับการอ่านหนังสือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์จะมีการกระพริบตาน้อยลง ทำให้เกิดอาการตาแห้งง่ายขึ้น
▶ แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม
▶ มีแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์
▶ การที่ตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์ไม่เรียบคมชัดเท่าตัวพิมพ์บนหน้าหนังสือ หรือมีความไม่นิ่งของสัญญาณในจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ต้องพยายามโฟกัสมากขึ้นจึงก่อให้เกิดอาการตาเมื่อยล้าได้ง่ายขึ้น
▶ ท่าทางในการในการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม
วิธีการแก้ไขที่ควรนำไปปฏิบัติมีหลายประการ เช่น
จะเห็นว่าในยุคปัจจุบัน Computer Vision Syndrome เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรา โดยที่บางคนอาจจะเป็นโรคนี้โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน และถ้าปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการใส่ใจ และแก้ไขที่สาเหตุ อาการที่กล่าวมานั้นก็จะกลับเป็นซ้ำ และอาจมีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ในกรณีที่ Computer Vision Syndrome ถูกละเลยไม่ได้รับการรักษา อาการเหล่านี้จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นปัญหาที่เรื้อรังแก้ไขได้ยาก และในที่สุดอาการเหล่านี้จะติดตัวคนไข้ไปตลอด นอกจากนี้ภาวะตาแห้งที่รุนแรงยังอาจทำให้กระจกตาเป็นแผลอักเสบ หรือติดเชื้อซึ่งมีผลต่อการมองเห็นหรือแม้กระทั่งตาบอด หรือสูญเสียลูกตาได้
1. Chris et al. Computer vision syndrome. J Nur Today Vol. 2 Issue 1 [e ISSN 2456-1630]. 2016
2. Rahul Bhargava. Et al. Oral omega-3 fatty acids treatment in computer vision syndrome related dry eyes. Contact Lens & Anterior Eye 38 (2015) 206–210
3. Sanjay Srinivasan and Chee-Chew Yi. Is There a Role for Nutritional Supplements in Dry Eye? Annals Academy of Medicine (Review Article). October 2007, Vol. 36 (Suppl) No. 10
4. Aaron Kassoff, MD. A Randomized, Placebo-Controlled, Clinical Trial of High-Dose Supplementation With Vitamins C and E, Beta Carotene, and Zinc for Age-Related Macular Degeneration and Vision Loss. Arch Ophthalmol. 2001 (October);119:1417-1436
5. LESLIE HYMAN, PhD. The Relationship of Dietary Carotenoid and Vitamin A, E, and C Intake With Age-Related Macular Degeneration in a Case-Control Study. Age-Related Eye Disease Study Research Group. Arch Ophthalmol. 2007;125(9):1225-1232
6. Judy D. Ribaya-Mercado, et.al. Lutein and Zeaxanthin and Their Potential Roles in Disease Prevention. Journal of the American College of Nutrition, Vol. 23, No. 6, 567S–587S (2004)
7. บุษป์รัตน์ การะโชติ . โรคคอมพิวเตอร์ วิชั่นซินโดรม (computer vision syndrome) , กลุ่มวิชาการและประสามงานวิจัยทางคลินิค. GPO R&D Newsletters ปีที 23 ฉบับที่ 1. 2559
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง