365WECARE

Gingko Biloba (สารสกัดจากใบแปะก๊วย)

 

สรรพคุณที่น่าสนใจของสารสกัดจากใบแปะก๊วย enlightened

 

     แป๊ะก๊วย (หรือ Maidenhair Tree) มีถิ่นกำเนิดจากทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตันไม้ที่ถูกนำมาใช้ในตำรับยาตั้งแต่สมัยโบราณ ต้นไม้ชนิดนี้ไม่มีความเกี่ยวเนื่องทางสายพันธุ์กับต้นไม้อื่นใด แต่ก็ดำรงชีวิตมานานถึง 240 ล้านปี จนถูกขนานนามว่าเป็น "ฟอสซิลที่มีชีวิต (a living fossil)” มันมีความคงทนแข็งแรงและสามารถเจริญเติบโตได้ง่าย จนมีความสูงได้ถึง 30-40 เมตร ต้นแป๊ะก๊วยเริ่มเข้ามาแพร่หลายสู่ทวีปยุโรปในศตวรรษที่ 17 ลักษณะของใบแป๊ะก๊วยจะคล้ายรูปพัด มีขอบใบเว้าเข้าตรงกลางทำให้ดูคล้ายถูกแบ่งเป็น 2 พู ซึ่งในใบนี้จะมีสารสำคัญหลายชนิดโดยเฉพาะสาร ginkgoflavone glycosides และ terpene lactones ที่เชื่อว่ามีคุณสมบัติทางยานำมารักษาอาการผิดปกติต่างๆ ได้

   

     “การไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ” เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงเลยสำหรับผู้คนในยุคปัจจุบัน ซึ่งต้องเสี่ยงกับโรคภัยไข้เจ็บได้ง่ายมากขึ้น แต่ยังมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่อาจจะเรียกได้ว่ามีสรรพคุณ “ครอบจักรวาล” เพราะเราพบว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากถึง 13 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ “ใบแปะก๊วย”
 
ʕ·ᴥ·ʔ โรคอัลไซเมอร์ มีงานวิจัยที่พบว่าผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ระดับเริ่มต้นถึงปานกลางรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยเป็นระยะเวลา 5 – 6 เดือน มีประสิทธิภาพเทียบเท่าการรับประทานยาโรคอัลไซเมอร์บางตัวได้


ʕ·ᴥ·ʔ เพิ่มสมาธิและความจำ สารสกัดจากใบแปะก๊วยสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านความคิด ความจำ การคิด และทำให้มีสมาธิมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรับประทานร่วมกับสารสกัดจากโสม


ʕ·ᴥ·ʔ อาการเบาหวานขึ้นตา ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาการจอประสาทตาเสื่อมจากโรคเบาหวาน เมื่อรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยแล้วพบว่า มองเห็นภาพสีได้ดีขึ้นจอประสาทตาเสื่อมจากวัย มีหลักฐานงานวิจัยบางฉบับที่พบว่า สารสกัดจากใบแปะก๊วยสามารถช่วยในการมองเห็นของผู้สูงอายุได้


ʕ·ᴥ·ʔ การรักษามะเร็งด้วยรังสี พบว่าสารสกัดจากใบแปะก๊วยสามารถลดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการฉายรังสีได้


ʕ·ᴥ·ʔ Raynaud’s disease หรือโรคนิ้วม่วงจากหลอดเลือดส่วนปลายนั้น หากรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยเป็นประจำ จะช่วยลดความถี่จากอาการปวดลงได้บ้างพอสมควร

 

ʕ·ᴥ·ʔ โรคด่างขาว สารสำคัญในใบแปะก๊วยจะช่วยลดขนาดและการกระจายของผิวหนังบริเวณที่เป็นโรคด่างขาวได้

 

ʕ·ᴥ·ʔ อาการปวดจากโรคหลอดเลือดส่วนปลาย เมื่อผู้ป่วยรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน พบว่าช่วยลดอาการปวดและลดโอกาสที่จะต้องไปรักษาด้วยการผ่าตัด


ʕ·ᴥ·ʔ ช่วงกำลังมีประจำเดือน หากรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยตั้งแต่วันที่ 15 หลังจากมีประจำเดือนวันแรก จนถึงวันที่ 5 หลังจากที่มีประจำเดือน จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอกและอาการอื่นๆ ขณะมีประจำเดือนได้


ʕ·ᴥ·ʔ อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้หญิง เมื่อรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยร่วมกับโสม แอลอาร์จินีน และวิตามินแร่ธาตุชนิดรวม จะช่วยเพิ่มอารมณ์ทางเพศขึ้นมาได้


ʕ·ᴥ·ʔ โรคจิตเภท การรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยควบคู่กับยารักษาโรคอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการของโรคและผลข้างเคียงที่เกิดจากยาได้ดี


ʕ·ᴥ·ʔ ภาวะเครียดวิตกกังวล การรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 เดือน จะช่วยลดอาการวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงแก้อาการวิงเวียนศีรษะอีกด้วย


ʕ·ᴥ·ʔ โรคสมาธิสั้น มีบางงานวิจัยที่พบว่าการรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยร่วมกับโสมอเมริกัน จะสามารถช่วยลดอาการสมาธิสั้นในเด็กอายุ 3 – 17 ปีได้ในระดับหนึ่ง
 
      ดังนั้นเราจึงอาจกล่าวได้ว่า ในใบแปะก๊วยนั้นมีสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพได้อย่างหลากหลายจริงๆ แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนรับประทานค่ะ

 

 

คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไบโอ-บิโลบา yes

 

     ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไบโอ-บิโลบา ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ เช่นในสมองและเส้นเลือดส่วนปลาย ด้วยระบบไหลเวียนที่ปกติ การนำพาออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงเซลล์ก็เพิ่มขึ้นด้วย จึงทำให้ช่วยรักษาอาการมือและเท้าเย็นได้ ด้วยปริมาณของสารสกัดแป๊ะก๊วยที่ค่อนข้างสูงในผลิตภัณฑ์ ไบโอ-บิโลบา จึงทำให้ผู้รับประทานเห็นผลชัดเจนภายใน 4 สัปดาห์ เพียงแค่รับประทานวันละ 1-2 เม็ด

 

     ในภาวะที่เลือดไปเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อได้น้อย อาจมีผลทำให้ปลายมือ และปลายเท้าเย็นลงได้ ผลิตภัณฑ์ ไบโอ-บิโลบา เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ดังนั้นจึงควรงดผลิตภัณฑ์แป๊ะก๊วยทุกชนิดก่อนทำการผ่าตัดใดๆ (เนื่องจากเสี่ยงต่อภาวะเลือดไหลไม่หยุด) อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคมีปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

 

 

สารออกฤทธิ์ใน Gingko Biloba (สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย) มีสารสำคัญ 2กลุ่ม

 

  1. สารกลุ่มเทอร์ปีนอยด์ ประกอบด้วยสาร sesquiterpene ได้แก่ ไบโลบาไลด์ (bilobalide) และ ไดเทอร์ปีนคีโตน5 ชนิดรวมเรียกว่า “กิงโกไลด์” (ginkgolides) ได้แก่ ginkgolides A, B, C, J และ M
  2. สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ในแป๊ะก๊วยมี flavonoid มากกว่า 30 ชนิด โดยเฉพาะ flavonoid glycoside โดยมีส่วน aglycone เป็นฟลาโวนอยด์หลัก 2 ชนิดคือ quercetin และ kaemferol เช่น quercetin-3-rhamnoside, kaemferol-3-rhamnoside, quercetin-3-rutinoside ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ในใบยังมีสารจำพวก biflavonoids หลายชนิด เช่น amentoflavone, bilobetin, ginkgetin, iso-ginkgetin เป็นสารที่พบเฉพาะในใบแป๊ะก๊วยเท่านั้น ซึ่งมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้

 

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการทำลายของอนุมูลอิสระ

 

เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น

 

เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด โดยเฉพาะหลอดเลือดเส้นเล็กๆ ส่งผลให้การนำพาออกซิเจนและอาหารไปเลี้ยงสมอง และส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น

 

ต่อต้านการจับตัวของเกร็ดเลือด จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดได้

 

ประโยชน์ของ Gingko Biloba (สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วย)ที่ใช้ในทางการแพทย์ enlightened

 

  • ช่วยบรรเทาอาการและชะลอความเสื่อมของสมองได้ ช่วยฟื้นฟูความทรงจำในผู้ป่วยสมองเสื่อม ช่วยเพิ่มความจำ ความคิด และการเรียนรู้ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิ (cerebral insufficiency) ช่วยลดภาวะซึมเศร้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความทรงจำระยะสั้นได้ เพราะจากการทดลองพบว่าสารสกัดแป๊ะก๊วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่สมองของหนูขาวได้ เนื่องจากฤทธิ์ในการยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกร็ดเลือด (antiplatelet aggregation)
  • ✿ ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด บรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดส่วนปลายแขน ขาอุดตันได้อย่างมีนัยสำคัญ จากการศึกษาพบว่าสารพวก flavonoid ในสารสกัดแป๊ะก๊วยมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เนื่องจากไปกระตุ้นการสร้าง prostacyclin และกระตุ้นการหลั่ง nitric oxide ซึ่งมีผลทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อหลอดเลือด
  • ✿ สภาวะการหายใจ การวิจัยในปี 1996 พบว่าใบแป๊ะก๊วยมีประสิทธิภาพในการป้องกันผู้ที่มีอาการ AMS (Asthma & Acute Mountain Sickness : ภาวะการผิดปกติของหายใจขณะขึ้นที่สูง) ซึ่งจะเกิดอาการขึ้นเพียง 13.6% ในผู้ที่ได้รับใบแปะก๊วย และ 81.8% ในกลุ่มผู้ที่กินยาหลอก ต่อมาในปี 2001 ได้มีการทดลองในผู้ป่วย 40 คน พบว่าใบแป๊ะก๊วยช่วยลดความรุนแรงของโรค AMS ได้ถึง 33% เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้รับประทานยาหลอกซึ่งมีความรุนแรงของโรคถึง 68%
  • สภาวะหูอื้อ การทดลองปี 1986 พบว่าผู้ป่วยหูอื้อที่ได้รับสารสกัดแป๊ะก๊วยมีพัฒนาการดีขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ให้ยาหลอก และการทดลองผลต่อการทรงตัว และการได้ยิน พบว่าสารสกัดแป๊ะก๊วยสามารถเพิ่มการเกิด action potential ของเส้นประสาท cochlea หลังการถูกทำลายในหนูตะเภาได้ และสามารถทำให้การทรงตัวดีขึ้น หลังการฉีดสารสกัดแป๊ะก๊วยแก่หนูขาวที่ vestibular nucleus ด้านหนึ่งถูกทำลายไป
  • สารที่สกัดได้จากใบแป๊ะก๊วยมีหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Free radical) ในบริเวณตา ป้องกันการ เกิดโรคเบาหวานขึ้นตาได้ สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยเหมาะกับ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม ได้แก่ ผู้บริหาร ผู้ที่ใช้สมอง ความคิด ความจำในการทำงาน ซึ่งส่งผลให้สมองเครียดและสร้างอนุมูลอิสระขึ้นมาทำลายเซลล์สมอง และผู้สูงอายุ
1. Bauer U.1984. 6-month double blind randomized clinical trial of Ginkgo biloba extract versus versus placebo in two parallel groups in patient suffering. Peripheral arterial insufficiency. 34:716-20 2. Ernst E. & Stevinson C.1999 Ginkgo biloba for Tinnitus: a review. Clin. Otolaryngol. 24:164-167 Hindmarch I,Subhan Z. 1984. The psychopharmacological effects of 3. Ginkgo biloba extract in normal healthy volunteers. Int J Clin Pharmacol Res: 89-93 4. Joseph E.Pizzorno,Michael T.Murrray.2000.Textbook of natural medicine.Vol 2. 751-759 Ian maidment.2001. The use of ginkgo biloba in the treatment of dementia. Drug information quarterly. 353-356 The American Botanical Council, Mark Blumenthal : p 185-200 5. Victor S. Sierpina.2003. American Family Physician. vol 5. 923-926

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

365wecare call365wecare Line365wecare Facebook365wecare Tiktok

ฝ่ายบริการลูกค้า

080-365-3696

ติดตามเราได้ที่

หน้าหลัก

shopping_cart
0

ตะกร้าสินค้า

แบรนด์

โปรโมชั่น