PROWELL Respa Well 300g. โปรเวล เรสพาเวล
อาหารผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ กลิ่นข้าวโพด
เรสพา เวลโปรตีนคุณภาพสูงภูมิคุ้มกัน เป็นเครื่องดื่มสําเร็จรูปชนิดผง ชงละลายง่าย รสชาติอร่อย สะดวก ปลอดภัย สามารถผสมให้มีความเข้มข้นต่างๆ ตามความต้องการ มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างชัดเจน ตรงตามหลักทางการแพทย์และโภชนาการ อาหารสำหรับผู้ป่วย หอบหืด ปอด และทางเดินหายใจ เพื่อ ฟื้นฟู บำรุง และให้พลังงานปอดให้แข็งแรงขึ้น
รหัสสินค้า: 28999
เลขที่จดแจ้ง / เลข อย. :73-1-05055-1-0011
เลือกจำนวน :
ราคา 2821 ฿3120
10 %
รายละเอียดสินค้า
PROWELL Respa Well 300g. โปรเวล เรสพาเวล
เรสพาเวล เครื่องดื่มแทนมื้ออาหาร มีสารอาหารครบถ้วนและสมดุลตามหลักโภชนาการ มีโปรตีนคุณภาพสูง โอเมก้า3สูง เสริมกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อกล้ามเนื้อของการหายใจ รวมถึงกรดอะมิโนสายกิ่ง(BCAA) ทำให้ความสามารถในการรับอาหารของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้มวลกล้ามเนื้อระบบหายใจแข็งแรงขึ้น ทำให้ได้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น ลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง มีใยอาหารสูง อนุมูลอิสระสูง ให้พลังงานสูง ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจและภูมิคุ้มกันร่างกาย
คุณสมบัติ :
เป็นเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผง ชงละลายง่าย รสชาติอร่อย สะดวก ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างชัดเจน ตรงตามหลักทางโภชนาการ
● โปรตีนสูง เพื่อชดเชยและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อกระบังลม กล้ามเนื้อปอดเพื่อช่วยขับคาร์บอนไดออกไซด์ ออกจากร่างกาย และเพิ่มออกซิเจนให้กับระบบหายใจ
● คาร์โบไฮเดรตต่ำ เพื่อลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการย่อย ลดภาระของปอด
● ไขมันคุณภาพดีสูง (มีกรดไขมันจำเป็นครบทั้งโอเมก้า 3, 6 และ9) ซึ่งจำเป็นต่อผนังเซลล์ ฮอร์โมน สมอง และเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ เป็นแหล่งพลังงานสูงที่ให้คาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุด
● โคลินและอิโนซิทอล ช่วยนำไขมันและโคเลสเตอรอลไปใช้งาน
● อาร์จีนีน ช่วยให้หน้าที่ของ T-cell ดีขึ้น มีส่วนช่วยให้ระดับของ T-helper-cell สูงขึ้นอีกด้วย และยังกระตุ้นการทำงานของ macrophage และnatural killer cellได้อีกด้วย
● กรดอะมิโนสายกิ่ง BCAA ( Branch Chain Amino Acid) ได้แก่ Leucine 50% , Isoleucine 25% และ Valine 25% มีความสำคัญมากในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เนื่องจากมีปริมาณกล้ามเนื้อลดลง และเป็นโปรตีนโมเลกุลเล็กที่สามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าโปรตีนรูปอื่นๆ ทำให้ความสามารถของการรับอาหารเพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อหายใจและระบบภูมิคุ้มกันจะดีขึ้นร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น รวมถึงช่วยชะลอความเสื่อมของปอดให้ถูกทำลายหรือทำงานให้น้อยที่สุด
● กลูตามีน ช่วยเสริมภูมิต้านทานของลำไส้ ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว (lymphocyte) มีการเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนเซลล์มากขึ้นและทำให้ผนังเซลล์ (cell membrane) แข็งแรงและทนต่อการถูกทำลาย (phagocytosis) จึงเสริมภูมิต้านทานของลำไส้ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ลำไส้ได้ยากขึ้น
● นิวคลีโอไทด์ ช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านทานต่อเชื้อโรค
● สารต้านทานอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินเอ/ซี/อี/ ซีลีเนียม สังกะสี ธาตุเหล็ก ช่วยผลิตและเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการต่อต้านการอักเสบ และป้องกันการติดเชื้อ ลดความรุนแรงของโรคลดลง ลดอาการอักเสบของปอด อาการหอบดีขึ้น ลดอัตราการเสียชีวิตจากการหายใจล้มเหลวได้
● มีแร่ธาตุครบ 15ชนิด และวิตามินครบทั้ง 14 ชนิด
● ไม่เติมน้ำตาล ไม่มีแลคโตส ไม่มีกลูเท็น
โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease, COPD)
ปอดเป็นอวัยวะสำคัญของระบบทางเดินหายใจที่มีหน้าที่หลักในการแลกเปลี่ยนก๊าซ ของเลือด คือรักษาระดับของออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังคืออะไร?
โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง คือ ภาวะที่มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนล่างอย่างถาวร ทำให้อากาศไม่สามารถเข้าหรือออกจากถุงลมปอดได้ตามปกติ ประกอบด้วย
1. โรคถุงลมโป่งพอง
2. โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
3. โรคหอบหืด
สาเหตุ : ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดโรค COPD ได้แก่ การสูบบุหรี่ โดยสารในควันบุหรี่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในหลอดลมและเนื้อปอด โดยจะมีเซลล์อักเสบเข้ามาสะสมอยู่ในปอด และหลั่งสารต่างๆ ที่ทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อปอด (protease) ทำให้ถุงลมปอดถูกทำลาย เกิดภาวะถุงลมโป่งพองและหลอดลมตีบตัว เนื่องจากมีการอักเสบและบวมของเยื่อบุผิว ทำให้เกิดภาวะหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังตามมา
อาการแสดงของโรค
มักจะพบในผู้ป่วยสูงอายุที่มีประวัติการสูบบุหรี่มานาน ผู้ป่วยมักมีอาการไอเรื้อรัง มีเสมหะมาก มีอาการเหนื่อยง่ายขึ้น ไม่สามารถทำกิจการต่างๆ ที่เคยทำได้ โดยอาการเหล่านี้จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยตลอดเวลา เกิดภาวะหายใจวายเรื้อรัง นอกจากนี้เวลาที่ผู้ป่วยเกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ก็อาจเกิดภาวะหายใจวายเฉียบพลันได้ง่าย
ข้อที่ควรระลึกเสมอ คือ ปอดของเราทุกคนมีความสามารถในการทำงานสำรองไว้มาก กล่าวคือ ถึงแม้จะสูญเสียการทำงานของปอดไปแล้วส่วนหนึ่ง ผู้ป่วยยังอาจจะไม่มีอาการผิดปกติ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เริ่มมีอาการหอบเหนื่อย แสดงว่าการทำงานของปอดได้เสียไปเป็นปริมาณค่อนข้างมากและไม่สามารถกลับเป็นปกติได้
แนวทางการรักษาโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังที่สำคัญประกอบด้วย
1. การชะลอการเสื่อมของปอด วิธีเดียวที่สามารถชะลอการเสื่อมของปอดอย่างได้ผลคือ การหยุดสูบบุหรี่
2. การแก้ไขภาวะอุดกั้นของหลอดลม อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วว่าในโรคนี้จะมีการอุดกั้นของหลอดลมอย่างถาวร ซึ่งต่างจากโรคหอบหืดที่มีการอุดกั้นเป็นๆ หายๆ
การดูแลสุขภาพทั่วไป : การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจ การรับประทานอาหารที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นได้ส่วนหนึ่ง ผู้ป่วยโรคนี้จึงควรหมั่นออกกำลังกายเท่าที่พอจะทำไหวอย่างสม่ำเสมอ
อาหารที่เหมาะแก่ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
ผู้ป่วยโรค COPD ควรกินอาหารเพื่อ
1. ให้มีน้ำหนักตัวคงที่
2. ให้กล้ามเนื้อหายใจทำงานได้ดี
3. เสริมภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านกับเชื้อโรค
การให้อาหารได้เหมาะสมจะช่วยลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดและการหายใจดีขึ้น ซึ่งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน จะถูกเผาพลาญเพื่อให้เกิดพลังงาน พร้อมทั้งได้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำออกมา
แต่การกินคาร์โบไฮเดรตจะผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากที่สุด และการกินไขมันจะผลิต คาร์บอนไดออกไซด์ออกมาน้อยที่สุด ผู้ป่วยที่มักหอบเหนื่อยหรือมีระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูงภายหลังจากกินอาหารที่มีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตสูง ควรเปลี่ยนมากินอาหารที่มีสัดส่วนของไขมันสูงแทน
วิธีกินอาหารที่ช่วยให้การหายใจดีขึ้น
● กินอาหารที่ให้พลังงานสูงในตอนเช้า
● ควรกิน 6 มื้อเล็กๆ /วัน แทนการกิน 3 มื้อใหญ่/วัน เพื่อไม่ให้เหนื่อยง่ายขณะกินอาหาร รวมทั้งควรให้เสิร์ฟอาหารหวานหลังกินอาหารหลักไปแล้ว 30-60 นาที
● เคี้ยวช้าๆ เพื่อให้ละเอียดจะได้ไม่กลืนอากาศเข้าไปมากในขณะกลืน
● เลือกกินอาหารที่เคี้ยวง่าย
● จำกัดเกลือเพราะเกลือทำให้ร่างกายบวมน้ำและหายใจเหนื่อยขึ้น
● เลี่ยงอาหารที่ผลิตแก๊สมาก เพราะจะทำให้ท้องตึงจนหายใจลำบาก เช่นบรอคโคลี่ กะหล่ำปลี ถั่ว ข้าวโพด แตงกวา แตงโม หัวหอม แอปเปิ้ล อาหารทอด น้ำอัดลม
● กินในท่านั่งเพื่อให้ปอดทำงานได้ดี
● ดื่มน้ำหลังกินอาหารเสร็จ ไม่ควรดื่มน้ำบ่อยระหว่างกินอาหารเพราะจะอิ่มเร็ว ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้เสมหะไอออกง่าย และป้องกันภาวะขาดน้ำ
● ดมออกซิเจนในขณะกินอาหาร เพราะการกินและย่อยอาหารล้วนต้องใช้ออกซิเจนทั้งสิ้น
● จำกัดการกินอาหารที่มีคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนรบกวนการดูดซึมยาบางอย่าง และทำให้ใจสั่น
● พักผ่อนหลังกินอาหารเสร็จ
การแก้ปัญหาภาวะน้ำหนักลด : น้ำหนักลดทำให้พยากรณ์โรคไม่ดีเมื่อ body mass index (BMI)ลดลง > 21% จากน้ำหนักของคนปกติ
พบว่าผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีน้ำหนักลดลง มักมีน้ำหนักน้อย และเสียชีวิตได้ง่ายกว่าผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวคงที่
ผู้ป่วยที่น้ำหนักตัวลด จะเกิดผลลบคือ ง่ายต่อการติดเชื้อ อ่อนแรงและเหนื่อยง่าย กล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง
ถ้าต้องการพลังงานเพิ่มหรือเพิ่มน้ำหนักควรกิน อาหารโปรตีนที่มีพลังงานสูง เส้นใยสูง มีเกลือและวิตามิน และอาหารเสริม
การแก้ปัญหาภาวะน้ำหนักเพิ่ม : ภาวะอ้วนคือ BMI เพิ่มขึ้น >20% จากค่าปกติ โดยจะทำให้ปอดต้องเพิ่มการหายใจมากขึ้นไปด้วย
เมื่อผู้ป่วยอ้วนจะก่อให้เกิดผลลบ คือ หัวใจและปอดทำงานมากขึ้น ร่างกายต้องการออกซิเจนมากขึ้น การหายใจลำบากขึ้น มีอาการ obstructive sleep apnea มากขึ้นในคนอ้วน
ดังนั้นแนะนำให้ผู้ป่วยพยายามกินมื้อละน้อยและถี่ขึ้น เพื่อไม่ให้กระเพาะอาหารโป่งตึงจนกดการทำงานของกระบังลม ก็ทำให้ไม่เหนื่อยมากนัก อาหารมื้อละน้อยๆ ก็ไม่ทำให้เกิดการสูดสำลัก ใช้พลังงานในการเคี้ยวและย่อยน้อยลง รวมทั้งควรคุมน้ำหนักตัวร่วมกับการออกกำลังกาย
นอกจากนี้ควรกินอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้นทำให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันโคเลสเตอรอลในเลือด ควรกินเส้นใย 20-35 กรัม/วัน เพื่อให้ลำไส้ทำงานดีขึ้น
สรุป โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นโรคที่ทำให้มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจ ผู้ป่วยต้องออกแรงมากกว่าคนปกติ ในการหายใจ โดยเฉพาะในการหายใจออก ทำให้ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในการหายใจ กล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจอ่อนล้า ความต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น ภูมิต้านทานของร่างกายลดลงติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ในขณะที่อาการของโรค COPD แย่ลงไปตามกาลเวลาก็ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพโภชนาการเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรประเมินภาวะโภชนาการของผู้ป่วยเป็นระยะๆ เพื่อให้การรักษาด้วยอาหารได้เหมาะสมอันจะทำให้เพิ่มคุณภาพชีวิตและพยากรณ์ของโรคดีขึ้น
การดูแลปัญหาสุขภาพตามหลักโภชนาการ
อาหารบำบัดสำหรับผู้เป็นโรคระบบทางเดินหายใจอุดตันมีความสำคัญมาก โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นโรคที่ทำให้มีการอุดกั้นของทางเดินหายใจ ผู้ป่วยต้องออกแรงมากกว่าคนปกติในการหายใจ โดยเฉพาะช่วงการหายใจออก
จึงจำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นในการหายใจและต้องใช้กล้ามเนื้อในการหายใจที่แข็งแรง การให้อาหารที่สมดุล และเหมาะสมกับสภาวะของโรคจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต และพยากรณ์ของโรคดีขึ้น
เหมาะสำหรับ: ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจอุกตัน (COPD) เช่น โรคปอดบวม อักเสบ โรคหอบหืด ภูมิแพ้ โรคถุงลมโป่งพอง วัณโรค เป็นต้น
วิธีรับประทาน
ชงร้อน: เรสพาเวล 3ช้อนตวง ต่อน้ำร้อน 150มล. คนหรือเขย่าให้เข้ากันจะได้เรสพาเวล 200มล. (ให้พลังงาน 310กิโลแคลอรี่)
ชงเย็น/ปั่น: น้ำร้อนครึ่งแก้ว 75มล.ลงในเรสพาเวล3ช้อนตวง คนให้เข้ากันดี เติมน้ำแข็งตามชอบ
เลขที่ อ.ย. 73-1-05055-1-0011
เลขที่ ฮาลาล 10 A777 341 01 56
คาร์โบไฮเดรตต่ำ,EPAสูง,พลังงานสูง,BCAA,โอเมก้า 3 สูง