แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
ข้ออักเสบจากข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
เครียด นอนไม่หลับ (Stress and Insomnia)
ตกขาว (Leucorrhea)
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)
ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia)
สตรีวัยทอง (Menopause)
ลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome)
ตับอักเสบ (Hepatitis)
เบาหวาน (Diabetes)
จอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration)
ต้อกระจก (Cataract)
สะเก็ดเงิน (Psoriasis)
ปวดหลัง (Chronic Lower back Pain)
ปวดประจำเดือน (Labor Pain Management)
ไทรอยด์เป็นพิษ (Hypothyroidism)
ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy)
ไขมันพอกตับที่มีการอักเสบร่วมด้วย (NASH)
CVS หรือ Computer Vision Syndrome
ท้องร่วง (Diarrhea)
เวียนหัว บ้านหมุน (Vertigo)
ร้องโคลิก (Colic)
ปวด บวม ช้ำ (Brunt Trauma)
โรคอ้วน (Obesity)
ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
ภาวะเสื่อมสมถรรภาพทางเพศ (Erectile dysfunction)
กระเพาะอาหารอักเสบ (Peptic Ulcer Disease)
เริม (Herpes Simplex)
หอบหืด (Asthma)
นอนติดเตียง (Bedridden)
โรคไต (Chronic Kidney Disease)
ผู้สูงอายุ (Elder care)
ไข้หวัด (Flu/Cold)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
บำรุงผิวน้ำมันมะพร้าว
สกินแคร์ออร์แกนิค
ผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคือง
ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
ผ้ายืดสวมประคอง (Elastic Bandage)
ชุดสายงวงช้างคอลลูเกต ผู้ป่วยเจาะคอ ( Corrugated Tube )
เทปแต่งแผล (Adhesive Tape roll)
กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยา (Syringe and Hypodermic needle)
ชุดเข็มให้น้ำเกลือ (Set IV)
ผ้าก๊อซต่างๆ (Gauze pad)
แอลกอฮอล์และน้ำยาฆ่าเชื้อ (Alcohol & Disinfecting solution)
น้ำยาล้างตา (Eye Lotion)
อุปกรณ์พยุงนิ้วหัวแม่มือ (Thumb Stabilizer)
อุปกรณ์พยุงกล้ามเนื้อ แขนท่อนล่าง(Tennis Elbow Strap)
อุปกรณ์ประคองนิ้วโป้งเท้า (Toe Separator)
อุปกรณ์รองส้นเท้า (Heel Cap Central Spur)
อุปกรณ์ลดการเสียดสีของเท้า (Elastic Bunion Aid)
อุปกรณ์ประคองแขนและไหล่ (Arm & Shoulder Sling)
อุปกรณ์ประคองคอ (Cervical Collar)
แผ่นรองซับ (Incontinent pad)
ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Tape Diaper)
ถุงมือทางการแพทย์ (Examination Glove)
ผ้ายกตัว (The easiest way to transfer)
อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยฟอกเลือด ล้างไต
อาหารโภชนบำบัด สำหรับผู้สูงอายุ (Nutrition Therapy Aging)
อาหารควบคุมน้ำหนัก (Nutrition for Weight Control)
ถังออกซิเจน (Oxygen Tank)
อุปกรณ์ดูแลเท้า (Foot Care)
เครื่องดูดเสมหะ (Suction Machine)
เครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิตอล (Digital Thermometer)
ไม้เท้าและอุปกรณ์ค้ำ (Canes&Crutches)
เก้าอี้นั่งถ่าย (Commode Chair)
เก้าอี้อาบน้ำ (Bath Chair)
อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (Diabetes Nutrition)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
กระบอกและเข็มฉีดยา สำหรับอินซูล (Insulin Syringe&Needle)
หน้ากากสุขภาพ (Mask)
แปรงสีฟัน (Toothbrush)
หมอนป้องกันแผลกดทับ (Anti-Bedsore Pillow)
หมอนก-ข-ค (ก้น-ขา-คอ)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
สารสกัดแบล็คโคโฮช (Black Cohosh)
ไบโอติน (Biotin)
เบต้ากลูแคน (Beta-glucan)
สารสกัดบิลเบอร์รี่ (Bilberry)
พรอบพอริส (Propolis)
แอสตร้าแซนทีน (Astaxantine)
น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ (Flax seed oil)
ไฟเบอร์ (Fiber)
Curcumin
แครนเบอร์รี่ (Cranberry)
สารสกัดจากอบเชย (Cinnamon Extract)
โคเอนไซม์คิวเท็น Coenzyme Q10
วิตามินดี Vitamin D
วิตามินบี6 Vitamin B6-PYRIDOXINE
วิตามินบี1 Vitamin B1-Thiamine
Gingko Biloba สารสกัดจากใบแปะก๊วย
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น Grape Seed Extract
วิตามินซี (Vitamin C)
อัลฟ่า-ไลโปอิก-แอซิด (Alpha Lipoic Acid)
อะเซโรลาเชอรี่ Acerola Cherry
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส Evening Primrose Oil
วิตามินบี12 Vitamin B12-Cobalamin
น้ำมันปลา Fish oil-Omega 3
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว Rice Bran Oil
ไลโคพีน Lycopene
Collagen (คอลลาเจน)
แอล-อาร์จินีน (L-Arginine)
ไลซีน L-Lysine
แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine)
แอล-กลูตาไธโอน (L - Glutathione)
Bioflavonoid (ไบโอฟลาโวนอยด์ -วิตามิน P)
โครเมี่ยม-พิโคลิเนต (Chromium picolinate)
โคลีน Choline
ไคโตซาน (Chitosan)
Aquamin (อะควอมิน-แคลเซี่ยมจากสาหร่ายทะเล)
วิธีสั่งซื้อ
ผิวบอบบางแพ้ง่าย เกิดจากเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอ ทำให้สูญเสียน้ำง่ายและไวต่อการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม สารเคมี หรือแม้แต่เครื่องสำอางบางชนิด ปัญหานี้อาจทำให้ผิวหน้าแดง คัน หรือแสบ และส่งผลต่อความมั่นใจ การดูแลที่เหมาะสมคือหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เลือกสกินแคร์ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารก่อระคายเคือง พร้อมเสริมความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อฟื้นฟูให้ผิวกลับมาแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว
ผิวหนัง ของสิ่งมีชีวิตทั่วไปย่อมมีความแตกต่างกัน แต่ถ้าเลือกได้ทุกคนคงอยากมีผิวหนังที่แข็งแรง ไม่แพ้ง่ายไม่ว่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นรอบข้าง จากภายในหรือภายนอก จากสภาพแวดล้อมมลภาวะต่างๆ เพราะผิวหนังถือได้ว่าเป็นปราการด่านแรกที่ปกป้องเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ผิวของเราไม่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวตัว จะส่งผลอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นแล้วทุกคนจึงอยากมีผิวหนังที่แข็งแรงในทุกส่วนของร่างกายแล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ ไปดูเนื้อหาที่สำคัญกันเลยดีกว่า
ผิวบอบบางแพ้ง่าย สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่เมื่อปัญหานี้เกิดขึ้นบนใบหน้าอาจเป็นจุดสนใจที่ทำให้คนอื่นสามารถสังเกตเห็นได้และทำให้เราสูญเสียความมั่นใจ ผิวบอบบางที่แพ้ง่ายเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากเกราะป้องกันผิวมีความผิดปกติ ทำให้ผิวสูญเสียน้ำและสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสามารถเข้ามาทำร้ายผิว ซึ่งระดับความรุนแรงของอาการผิวบอบบางไวต่อการระคายเคืองนั้นอาจเพิ่มมากขึ้นหากโดนปัจจัยจากภายนอกอย่างแสงแดด หรือสารบางชนิดในเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวเป็นตัวกระตุ้นเสริม เพราะฉะนั้นนอกจากการสังเกตุและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย แล้วการเลือกใช้สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
หลายคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าบางชนิดแล้วเกิดอาการระคายเคืองมักเข้าใจว่าตนเองมีผิวแพ้ง่าย แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดจากการแพ้ส่วนประกอบตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยวิธีสังเกตว่าตนเองมีผิวแพ้ง่ายหรือไม่ ทำได้ดังนี้
ผิวบอบบาง แพ้ง่าย สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในเด็กทารกและเมื่อเริ่มมีอายุ เพราะผิวเด็กทารกมีความหนาประมาณเศษ 1 ส่วน 5 ของผิวผู้ใหญ่ และเกราะป้องกันผิวยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่จึงทำให้เซนซิทิฟต่อสิ่งกระตุ้นได้ง่าย ส่วนผิวผู้ใหญ่นั้นเมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของเกราะป้องกันผิวก็เริ่มเสื่อมสภาพลง ประกอบกับต้องเผชิญทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่เป็นสิ่งกระตุ้น จึงทำให้มีผลกระทบกับความสามารถของผิวในการป้องกันสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคือง โดยปัจจัยภายในที่ส่งผลให้เกิดผิวบอบบางแพ้ง่าย ได้แก่
1. ความแตกต่างของผิวหน้ากับผิวส่วนอื่นๆ เนื่องจากผิวหน้าต้องเผชิญกับปัจจัยกระตุ้นจากภายนอกอยู่เสมอ และผิวหนังกำพร้าบนผิวหน้าเรามีความหนาเพียงแค่ 0.02 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับหนังกำพร้าบริเวณอื่นๆ ของร่างกายที่มีความหนากว่าถึง 5 เท่า หรือประมาณ 0.1 มิลลิเมตร จึงทำให้ผิวหน้าเป็นบริเวณที่เกิดปัญหาผิวบอบบาง อ่อนแอ ไวต่อการระคายเคืองได้ง่าย เมื่อใดก็ตามที่เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จะส่งผลให้เกิดการสูญเสียน้ำและเปิดโอกาสให้ปัจจัยภายนอกเข้ามาทำร้ายผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นที่ผิวหน้าแล้วอาการมักจะรุนแรงและเห็นได้ชัดเจน
2. ฮอร์โมนภายในร่างกาย จากการตั้งครรภ์ ในช่วงที่มีประจำเดือนหรือแม้แต่คนที่หมดประจำเดือนแล้ว ล้วนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากการระคายเคืองได้เช่นกัน
3. ผิวที่เริ่มมีอายุ มีแนวโน้มที่จะมีความอ่อนไหวและผิวบอบบางมากกว่าปกติ เพราะชั้นหนังกำพร้าที่บางลงและเกราะไขมันป้องกันผิวผลิตได้น้อยลง ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ สารสำคัญในชั้นผิว เช่น กรดไฮยาลูรอน โคเอนไซม์ คิวเทน มีปริมาณลดลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นหรือเซลล์ผิวไม่สามารถสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ตามปกติ ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอย เหี่ยวย่น ผิวแห้ง ผิวแดง หรือมีอาการคัน
4. สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อากาศหนาวมาก ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายในขณะที่อากาศร้อนทำให้เหงื่อที่ออกมาและระเหย ทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย การอยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน หรืออยู่ในที่ที่มีความชื้นต่ำก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
5. รังสียูวีและมลภาวะ การที่ผิวหน้าต้องเผชิญกับแสงแดดหรือฝุ่น PM2.5 ก็ทำให้ผิวอยู่ในอาการเครียดและก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการทำร้ายผิวและทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ
6. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สารทำความสะอาดบางชนิดทำให้ไขมันธรรมชาติในผิวหายไป ส่วนน้ำหอม สี และแอลกอฮอล์ในผลิตภัณฑ์บางประเภทก็ทำให้ผิวระคายเคืองได้เช่นกัน
7. การทำทรีทเม้นท์ เคมิคอล พีล การทำหัตถการบนใบหน้าและการใช้สครับขัดผิวหน้า จะทำให้ฟิล์มไขมันบางๆ ที่ปกป้องผิวหลุดออก นอกจากนั้นยังทำร้ายชั้นบนของหนังแท้ด้วย ถึงแม้การทำทรีทเม้นท์ประเภทนี้อาจมีประโยชน์ในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและช่วยลดเลือนริ้วรอยบางๆ ได้บ้าง แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางที่แพ้ง่ายอยู่แล้วด้วย
ผู้มีผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า บำรุงผิวหน้า และเครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิว รวมถึงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง ดังนี้
• ทดสอบอาการแพ้ทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด โดยทาบาง ๆ บริเวณข้อพับแขน ข้อมือ ท้องแขน หรือหลัง หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังส่วนที่ทดสอบสัมผัสน้ำหรือเหงื่อประมาณ 48 ชั่วโมง หากเกิดผื่นแดงแสดงว่ามีอาการแพ้และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเจือปน เช่น น้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และส่วนผสมบางชนิดที่อาจทำให้มีอาการแพ้ได้ง่าย เช่น เรตินอยด์ กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha-Hydroxy Acids: AHA) ทัลคัม (Talc) ไมกา (Mica) สารเคมีระงับกลิ่นกาย รวมถึงสารเคมีที่มีคุณสมบัติทำลายหรือยับยั้งแบคทีเรีย
• ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผลัดเซลล์ผิว หากต้องการผลัดเซลล์ผิวควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์
• หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง ที่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือมีสารกันเสียเป็นส่วนประกอบ
• ไม่ควรใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุ เพราะอาจเกิดการกลายสภาพและเป็นอันตรายต่อผิวหนังและอาจส่งผลต่อผิวหนังในอนาคตได้
• หลีกเลี่ยงสภาพอากาศหนาวจัดหรือร้อนจัด โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางผิวหนัง เช่น ผื่นผิวหนังอักเสบ เพราะอาจทำให้อาการแพ้รุนแรงขึ้น
• หลีกเลี่ยงการออกกลางแจ้ง ในช่วงเวลา 9.00-14.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความเข้มของรังสียูวีค่อนข้างสูงและอาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพผิวหนังในอนาคตได้อย่างมาก
• ควรรักษาความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ หมั่นล้างและทำความสะอาดสิ่งของที่สัมผัสผิวหน้าเป็นประจำ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า ปลอกหมอน เป็นต้น เพราะเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามสิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยก่อให้เกิดสิวและปัญหาทางผิวหนังที่ส่งผลให้ผิวระคายเคืองง่าย
• ควรเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม เช่น เลือกสวมเสื้อผ้าเนื้อบางเบา ไม่รัดรูป หรือผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิวหนัง
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท่านั้น
• ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบและได้รับการยืนยันว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
• ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวเป็นประจำเพื่อป้องกันผิวแห้ง โดยควรเลือกที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติเป็นหลัก ปราศจากน้ำหอม สี และแอลกอฮอล์
• ทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันแสงแดด หรือ SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนออกแดด ควรเลือกครีมกันแดดสูตร Non-Chemical ที่มีส่วนผสมของซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) และไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) เป็นหลัก เนื่องจากสารทั้ง 2 ชนิดนี้จะไม่ซึมผ่านผิวหนัง ทำให้เสี่ยงเกิดการแพ้ได้น้อย
มีความเชื่อที่ว่าความชุ่มชื้นเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานของผิวที่แข็งแรง ซึ่งเซราไมด์เป็นสารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิว และอาจช่วยป้องกันผิว ฟื้นฟูผิว และลดความเสียหายจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดผิวระคายเคืองได้ มีการศึกษาที่เกี่ยวกับการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ในผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าหลังสัปดาห์สุดท้ายผู้ป่วยโรคนี้มีสภาพผิวโดยรวมที่ดีขึ้นโดยไม่พบผลข้างเคียงงานวิจัยหลายฉบับที่ศึกษาเกี่ยวกับเซราไมด์กับโรคผิวหนังอักเสบชนิดต่าง ๆ พบว่าเซราไมด์นั้นเป็นหนึ่งในสารสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันที่ช่วยปกป้องผิวหนังชั้นนอก ลดอาการผิวแพ้ง่าย รวมถึงการใช้เซราไมด์ควบคู่ไปกับยาที่ใช้การรักษาโรคผิวหนังอักเสบบางชนิดอาจช่วยให้ผลการรักษานั้นดียิ่งขึ้น
นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมเซราไมด์ที่อาจช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวแล้ว ก็ยังควรให้ความสำคัญกับการควบคุมปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่มีผลต่อการสร้างเกราะป้องกันตามธรรมชาติให้กับผิว ซึ่งอาจทำได้ด้วยการดูแลตนเอง พักผ่อนให้เพียงพอ หรือการหลีกเลี่ยงการเผชิญมลภาวะต่าง ๆ และแม้ว่าเซราไมด์จะเป็นสารที่ปลอดภัย แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตามอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ จึงควรทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ทุกครั้ง โดยการทาผลิตภัณฑ์ลงบนท้องแขนและรอจนครบ 1 วัน หากเกิดอาการผิดปกติ อย่างผื่น แดง คัน หรือระคายเคือง แสดงว่าผลิตภัณฑ์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ผิวบอบบางและผิวแพ้ง่าย สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่เมื่อปัญหานี้เกิดขึ้นบนใบหน้าอาจเป็นจุดสนใจที่ทำให้คนอื่นสามารถสังเกตเห็นได้และทำให้เราสูญเสียความมั่นใจ ผิวบอบบางที่แพ้ง่ายเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากเกราะป้องกันผิวมีความผิดปกติ ทำให้ผิวสูญเสียน้ำและสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสามารถเข้ามาทำร้ายผิวซึ่งระดับความรุนแรงของอาการผิวบอบบางไวต่อการระคายเคืองนั้นอาจเพิ่มมากขึ้นหากโดนปัจจัยจากภายนอกอย่างแสงแดด หรือสารบางชนิดในเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวเป็นตัวกระตุ้นเสริม เพราะฉะนั้นนอกจากการสังเกตุและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย แล้วการเลือกใช้สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
ผิวของเราเป็นอวัยวะที่มีความมหัศจรรย์ ผิวสุขภาพดี คือ การมีเกราะปกป้องผิว (Skin barrier) ที่แข็งแรง โดยจะมีขั้นตอนการทำงานของส่วนต่างๆ ที่สลับซับซ้อนในการสร้างสมดุลในผิว เพื่อปกป้องผิวจากสิ่งเร้าและปัจจัยทำร้ายผิวจากภายนอก โดยมีเซลล์ผิวและไขมันที่อยู่ในชั้นผิวซึ่งทำหน้าที่ไม่ต่างกับอิฐและปูนที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบเพื่อสร้างความมั่นคงและแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิว ซึ่งหากเราไม่ดูแลจะทำให้เกราะปกป้องผิวอ่อนแอและส่งผลกระทบให้เกิด 4 ปัญหาผิว คือ ผิวแดง ผิวแห้งลอกเป็นขุย ผิวขาดน้ำ เป็นผดผื่นและไวต่อการระคายเคืองได้ง่าย และอาจมีปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา
ผิวบอบบาง แพ้ง่าย สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในเด็กทารกและเมื่อเริ่มมีอายุเพราะผิวเด็กทารกมีความหนาประมาณเศษ 1 ส่วน 5 ของผิวผู้ใหญ่ และเกราะป้องกันผิวยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่จึงทำให้เซนซิทิฟต่อสิ่งกระตุ้นได้ง่าย ส่วนผิวผู้ใหญ่นั้นเมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของเกราะป้องกันผิวก็เริ่มเสื่อมสภาพลง ประกอบกับต้องเผชิญทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่เป็นสิ่งกระตุ้น จึงทำให้มีผลกระทบกับความสามารถของผิวในการป้องกันสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคือง โดยปัจจัยภายในที่ส่งผลให้เกิดผิวบอบบางแพ้ง่าย ได้แก่
✿ ความแตกต่างของผิวหน้ากับผิวส่วนอื่นๆ เนื่องจากผิวหน้าต้องเผชิญกับปัจจัยกระตุ้นจากภายนอกอยู่เสมอ และผิวหนังกำพร้าบนผิวหน้าเรามีความหนาเพียงแค่ 0.02 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับหนังกำพร้าบริเวณอื่นๆ ของร่างกายที่มีความหนากว่าถึง 5 เท่า หรือประมาณ 0.1 มิลลิเมตร จึงทำให้ผิวหน้าเป็นบริเวณที่เกิดปัญหาผิวบอบบางอ่อนแอ ไวต่อการระคายเคืองได้ง่าย เมื่อใดก็ตามที่เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จะส่งผลให้เกิดการสูญเสียน้ำและเปิดโอกาสให้ปัจจัยภายนอกเข้ามาทำร้ายผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นที่ผิวหน้าแล้วอาการมักจะรุนแรงและเห็นได้ชัดเจน
✿ ฮอร์โมนภายในร่างกาย จากการตั้งครรภ์ ในช่วงที่มีประจำเดือนหรือแม้แต่คนที่หมดประจำเดือนแล้ว ล้วนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากการระคายเคืองได้เช่นกัน ผิวที่เริ่มมีอายุ มีแนวโน้มที่จะมีความอ่อนไหวและผิวบอบบางมากกว่าปกติ เพราะชั้นหนังกำพร้าที่บางลงและเกราะไขมันป้องกันผิวผลิตได้น้อยลง ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ สารสำคัญในชั้นผิว เช่น กรดไฮยาลูรอน โคเอนไซม์ คิวเทน มีปริมาณลดลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นหรือเซลล์ผิวไม่สามารถสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ตามปกติ ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอย เหี่ยวย่น ผิวแห้ง ผิวแดง หรือมีอาการคัน
✿ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อากาศหนาวมาก ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายในขณะที่อากาศร้อนทำให้เหงื่อที่ออกมาและระเหย ทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย การอยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน หรืออยู่ในที่ที่มีความชื้นต่ำก็สามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกันรังสียูวีและมลภาวะ การที่ผิวหน้าต้องเผชิญกับแสงแดดหรือฝุ่น PM2.5 ก็ทำให้ผิวอยู่ในอาการเครียดและก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการทำร้ายผิวและทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ
✿ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สารทำความสะอาดบางชนิดทำให้ไขมันธรรมชาติในผิวหายไป ส่วนน้ำหอม สี และแอลกอฮอล์ในผลิตภัณฑ์บางประเภทก็ทำให้ผิวระคายเคืองได้เช่นกัน
ʕ·ᴥ·ʔ การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ : ความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอ เป็นอีกสองปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาการผิวแพ้ง่ายปะทุขึ้นมาได้ โดยบางครั้งเมื่อควบคู่กับการรับประทานอาหารที่ขาดคุณค่าทางโภชนาการและการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ผิวที่แห้ง ขาดน้ำ และระคายเคืองอยู่แล้วเกิดอาการแพ้ขึ้น การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น วิตามินเอ ซี และ อี น้ำมันในพืชและปลา สามารถช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีได้
ʕ·ᴥ·ʔ ทาครีมกันแดดเป็นประจำ แม้ในวันที่เมฆครึ้ม ผิวหน้าของเราก็ยังคงต้องเจอกับรังสียูวี ดังนั้นการหมั่นทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ และควรหลีกเลี่ยงการออกแดดระหว่างเวลา 11.00 - 15.00 น. ควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากสารระคายเคืองผิว เช่น น้ำหอมบางประเภท
ʕ·ᴥ·ʔ ดูแลและฟื้นบำรุงผิวอ่อนแอ ผิวบอบบาง แพ้ง่ายเพราะถูกกระตุ้นจากปัจจัยต่างๆ ที่ทำร้ายผิว สกินแคร์บำรุงผิวที่ใช้ควรมีส่วนผสมของสารสำคัญที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดอาการแพ้และระคายเคืองของผิวได้ดี
นอกจากการดูแลสุขภาพจากภายในแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารในกลุ่มที่มีวิตามินเพียงพอต่อผิวพรรณ การทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ดื่มน้ำให้พอ พักผ่อนให้เต็มอิ่มในแต่ละวันแล้วนั้น การปลอบประโลมผิว หรือที่เรียกว่าการดูแลภายนอก เช่นการทาครีม และการทายารักษาบางชนิด ยากกว่าคือ จะเลือกครีมอย่างไร ให้เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของแต่ละคนสำคัญอย่างยิ่ง ยิ่งเป็นเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ หรือไม่มีการการันตีและเป็นที่ยอมรับแล้วนั้นจะส่งผลเสียคูณทวีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
ดังนั้นแล้ว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวควรเลือกที่เป็นการยอมรับอย่างแพร่หลาย และมีการวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และได้การยอมรับจากโรงพยาบาลชั้นนำทั่วโลก
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง