B-Garlic กระเทียมดำ
B-Garlic กระเทียมดำคืออะไร ?
กระเทียมดำ B-Garlic คือ การนำกระเทียมโทนสด มาผ่านกระบวนการบ่มด้วยการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น
บ่มด้วยอุณหภูมิต่ำ ระยะเวลา 30 วัน จะทาให้มีรสชาติหวาน เนื้อสัมผัสคล้ายเยลลี ไม่หลงเหลือ ความเผ็ด และฉุน
ของกระเทียม จึงทำให้ไม่เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
ทำไมถึงใช้กระเทียมโทน ใช้กระเทียมกลีบธรรมดำตามตลาดได้มั้ย?
ใช่กระเทียมกลีบได้ค่ะ แต่ที่เราเลือกใช้กระเทียมโทน เนืองจากกระเทียมโทนมีสรรพคุณทางยาสูงกว่ากระเทียม
กลีบ อีกทั้ง กระเทียมกลีบไทย กลีบค่อนข้างเล็ก เมื่อนำมาบ่มเป็นกระเทียมดำแล้ว ทำให้เวลาทานแกะเปลือกยาก
อีกทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส จะไม่อร่อยเท่ากระเทียมโทน
กระเทียมปลอดสารมั้ย ?
B-Garlic กระเทียมดำ มีการควบคุมการใช้สารเคมีของเกษตรกรเครือข่าย ตั้งแต่กระบวนการปลูกกระเทียมสด
และก่อนนำมาผลิตเป็นกระเทียมดำ B-Garlic ได้มีการส่งตรวจสารเคมีตกค้างอีกครั้งกับ Central Lab ให้มั่นใจว่าไม่
พบสารเคมีตกค้างในกระเทียมค่ะ ดังนั้นคุณลูกค้ามั่นใจได้เลยว่า สินค้า B-Garlic กระเทียมดำปลอดภัยจากสารเคมี
อย่างแน่นอน
มันต่างกับกระเทียมสดยังไง?
อย่างแรกคือ รสชาติ จะไม่เผ็ดไม่ฉุน ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร อีกทั้งคุณค่าทางสารอาหาร และ
คุณประโยชน์จากสาระสำคัญเพิ่มขึ้น 13 เท่า มีงานวิจัยจาก คณะแพทย์ และคณะเภสัช มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กินเยอะกว่าที่กำหนดเป็นอะไรมั้ย ?
ทานเยอะไม่เป็นอะไรค่ะ เนืองจากกระเทียมดำ เป็นกระเทียม 100% ดังนั้นจะไม่มีผลข้างเคียงเมื่อทานเยอะ แต่
ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดประมาณ 8 หัวต่อวัน หากเราทานเกินร่างกายก็จะขับออกเป็น
ของเสีย
เด็กทานได้มั้ย ?
เด็กทานได้ค่ะ เนืองจากในกระเทียมดำ มี GABA สูงกว่าข้าวซ้อมมือ จะช่วยในเรื่องของพัฒนาการของเด็ก อีก
ทั้งกระเทียมดำ B-Garlic ยังช่วยในเรื่องของภูมิแพ้ ได้อีกด้วย
ประโยชน์ด้านการแพทย์ของกระเทียมดำ
1. ช่วยควบคุมระดับความดันเลือด
2. ช่วยลดความหนืดของเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
3. ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยเข้าไปช่วยกระตุ้นการทางานของตับอ่อนในการผลิตอินซูลิน
4. ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด
5. ช่วยบำรุงตับ ตับอ่อน ไต ให้อยู่ในภาวะสมดุล
6. มีประสิทธิภาพในการช่วยควบคุมและลดขนาดของเนื้องอกไม่ให้มีการเจริญเติบโต
7. มีสารบำรุงสมอง (GABA) ในปริมาณที่สูงกว่าข้าวซ้อมมือหลายเท่า
8. มีสาร Antioxidant ในปริมาณสูง
9. ช่วยเพิ่มระดับของ Cytokine, IFN, TNF, NO, และ IL-2 ที่ช่วยในเรื่องของภูมิคุ้มกันอาการแพ้
10. ช่วยขับสารพิษที่เข้าสู่อวัยวะต่างๆของร่างกาย
11. ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายในการขับถ่ายงานขึ้น
12. ช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น ลดอาการปวดเมื่อย
13. ลดอาการ Hangover และขับพิษสุราที่เป็นอันตรายต่อตับ
หวานแบบนี้ บ่มน้ำผึ้ง หรือ น้ำตาล เหรอ ?
กระเทียมดำ B-Garlic ใช้กระเทียม 100% ไม่ปรุงแต่งรสชาติ หรือใส่สารอื่นๆลงไปเลย ความหวาน เกิดจาก
กระบวนการบ่ม ทำให้เกิด กลูตามิก แอซิด ที่เป็นสารให้ความหวานธรรมชาติ ผู้ที่เป็นเบาหวาน สามารถทานได้แบบ
ไม่ต้องกังวล เนืองจาก กลูตามิก แอซิด เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้เลย ไม่
หลงเหลืออยู่ในร่างกาย
กระเทียมดำ
ผลิตโดยผ่านกระบวนการอบที่อุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมโดยใช้เวลาถึง 30-90 วัน สิ่งที่พบ กลับเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า ยิ่งกว่ากระเทียมขาวๆ ถึง 13 เท่า สารอาหารที่เคยอยู่ในกระเทียมขาวๆนั้นยังอยู่เช่นเดิม แต่กลิ่นฉุนและเผ็ดร้อนของกระเทียมสดได้แปรเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่มีความเสถียรขึ้นคือ
- ✿ S-allycysteine(SAC) ในกระเทียมดำซี่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูล ลดคลอเรสเตอรอล และป้องกันมะเร็ง
- ✿ S-allyl melcaptocystein(SAMC) ในกระเทียมดำซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันมะเร็ง
- ✿ Y-Aminobutyric acid(GABA) ในกระเทียมดำซึ่งเป็นสารประกอบอินทรย์ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ในระบบประสาทของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีคุณสมบัติเสริมสร้างสมอง และป้องกันความผิดปกติของระบบประสาท
ทำให้สามารถกล่าวได้ว่า สรรพคุณของกระเทียมดำ Black Garlic นั้นดีกว่ากระเทียมสด ถึง 13 เท่า แถมเมื่อรับประทานกระเทียมดำ Black Garlic เข้าไปไม่มีผลกระทบระคายเคืองต่อระบบการย่อยอาหารเลย
วิธีรับประทาน B-Garlic ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- ✿ ทานตอนเช้า ในขณะที่ท้องว่าง (เพียงครั้งเดียว)
- ✿ ทานครั้งละ 2-3หัว: เพื่อขับพิษทั่วไปไม่ได้ป่วยเป็นโรค
- ✿ ทานครั้งละ 4-6 หัว: เพื่อลดความดัน เบาหวาน ลดคลอเรสเตอรอล ไขมัน
- ✿ เนื่องจาก B-Garlic เป็นนวัตกรรมจากสมุนไพรธรรมชาติ และไม่ใช้สารเคมีใดๆใน

กระบวนการผลิต จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ
“กระเทียมดำ (Black Garlic)” ได้ถูกคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเอเชีย ที่พยายามกำจัดกลิ่นฉุนและ รสชาดที่ไม่พึ่งประสงค์ในกระเทียม รวมทั้งกำจัดอาการผิดปกติเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร และการย่อยอาหาร อันเนื่องมาจากการ บริโภคกระเทียมสด โดยผ่านกระบวนการอบที่อุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมโดยใช้เวลาถึง 30-90 วัน สิ่งที่พบ กลับเป็นสิ่งที่มี คุณค่ามากกว่า ยิ่งกว่ากระเทียมขาวๆ ถึง 13 เท่า สารอาหารที่เคยอยู่ในกระเทียมขาวๆนั้นยังอยู่เช่นเดิม แต่กลิ่นฉุนและเผ็ดร้อน ของกระเทียมสดได้แปรเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่มีความเสถียรขึ้น

กระเทียมดำมีผลต่อการลดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด เนื่องจากสารเอส-อัลลิล-แอล-ซีสเทอีน ในกระเทียมดำจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้ดียิ่งขึ้น
สารอัลลิซินในกระเทียมดำช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างน้ำตาลกลูโคสจากตับ ส่งผลให้การเพิ่มระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดลดลง เมื่อไฟโตนิวเทรียนท์ในกลุ่มออร์แกโนซัลเฟอร์ ดูดซึมสู่กระแสเลือดก็จะ ขัดขวางการรวมตัวของน้ำตาลกลูโคสกับเม็ดเลือดแดงฮีโมโกลบิน และ ขัดขวางการรวมตัวของน้ำตาลกลูโคสกับโปรตีนที่อยู่บริเวณผนังหลอดเลือดแดงทั้งในไตและหัวใจ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันหลอดเลือด โรคไตและโรคหัวใจของผู้ป่วยเบาหวาน
มีการศึกษาว่า หากผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทานกระเทียมดำขนาด 300 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน จะมีระดับน้ำตาลกลูโคสหลังอดอาหารลดลงถึง 32% และมีระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ลดลง 22%เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่ได้รับประทานกระเทียมดำ12ทั้งนี้การรับประทานกระเทียมดำเพื่อลดระดับน้ำตาลกลูโคสและไขมันในหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจำเป็น ต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กัน

กระเทียมสามารถป้องกันการเกิด
1. โรคหัวใจ (Heart disease)
มีหลักฐานบางอย่างสนับสนุนว่า กระเทียมอาจป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจได้ โดยลดการเกิดเส้นเลือดแข็ง (artherosclerosis) และสามารถลดระดับความดันลงได้เล็กน้อย (ระหว่าง 7% ถึง 8%) นอกจากนั้น กระเทียมยังเป็นสารต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือด ด้วยการทำให้เกล็ดเลือดบางลง ซึ่งอาจป้องกันไม่เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack) หรือ สมองขาดเลือด (stroke)
2. โรคหวัด (Common cold)
กระเทียมสามารถช่วยป้องกันการเกิดหวัด (common cold) ได้ โดยมีการศึกษาเปรียบเทียบการใช้กระเทียม ในระยะที่มีหวัดระบาด (common cold) ผลปรากฏว่า คนที่รับประทานกระเทียมจะเป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่รับประทานกระเทียมเลย นอกจากนั้น ในระหว่างเป็นหวัด กระทียมสามารถทำให้อาการของหวัดหายเร็วด้วย
3. โรคมะเร็ง (Cancer)
กระเทียมช่วยเสริมให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น สามารถช่วยร่างกายให้ต่อสู้กับมะเร็งได้ผลจากการศึกษา กลุ่มคนที่รับประทานกระเทียมสด หรือกระเทียมที่ปรุงในอาหาร ทำให้มีแนวโน้มที่จะไม่เกิดเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งของลำไส้ใหญ่ (colon)และมะเร็งกระเพาะ (CA stomach)ผลจากการศึกษา พบว่า คนที่กินกระเทียมสด หรือกระเทียมปรุงแล้ว สามารถลดการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ถึง 30%
กระเทียมมีสารต้านอนุมูล (Antioxidants)
ซึ่งอนุมูลอิสระ (free radicals) อาจมีบทบาทสำคัญต่อการทำให้คน “แก่” เร็วขึ้น ตลอดรวมไปถึงการทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย รวมถึงโรคหัวใจ และมะเร็ง
กระเทียมสามารถทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวที่สามารถทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ (cell membranes) และ DNA ได้ดี
อย.51-2-03161-4-0001
น้ำหนักสินค้า 1900.กรัม







คำเตือน เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษาโรค
|