Qnature TS Fish Oil 1250mg. 30s.
Qnature Odorless Garlic 30s.
ในน้ำมันปลา อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่มีองค์ประกอบสำคัญ คือ กรดไขมัน 2 ชนิด ได้แก่ EPA และ DHA มีคุณสมบัติในการลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และต้านการอักเสบที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและสมองขาดเลือด โดยมีงานวิจัยชื่อว่า GISSI trial พบว่าการรับประทานน้ำมันปลา ช่วยป้องกันหัวใจขาดเลือดได้ นอกจากนี้ DHA ยังมีส่วนช่วยในการดูแลสมองและสายตาอีกด้วย
ความสำคัญของน้ำมันปลา
● กรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิกมีความจำเป็นต่อการพัฒนาของจอตาและสมองของทารก แต่ทารกไม่สามารถสังเคราะห์ DHA ได้ด้วยตนเอง ต้องอาศัยจากน้ำนมแม่ โดยทารกแรกเกิดควรได้รับ DHA ไม่ต่ำกว่าวันละ 40 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม จากการศึกษายังพบว่าเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เมื่อได้รับนมเสริม DHA จะสามารถมองเห็นได้ชัดเร็วกว่าเด็กที่ไม่ได้รับอีกด้วย มารดาและหญิงที่ให้นมบุตรจึงควรบริโภค DHA อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้กรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิกที่ได้รับ ส่งต่อไปยังลูกโดยผ่านทางรกและน้ำนม
● กรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิกเป็นส่วนหนึ่งของเซลล์สมองและเซลล์ประสาทซึ่งมีผลต่อ สติปัญญา หากร่างกายขาด DHA จะทำให้เซลล์สมองและเซลล์ประสาทขาดประสิทธิภาพไปด้วย เด็กในวัยนี้จึงควรได้รับ DHA ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของสมอง
● คนในวัยทำงานมักประสบความเครียดอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะร่างกายขาด DHA ในปริมาณที่เหมาะสม กรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิกจะผ่านเข้าไปเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท ของเซลล์สมอง ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ทำให้สมองทำงานดีขึ้น หากรับประทานอาหารที่มีกรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิกจำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สัดส่วนของ DHA ในสมองสูงขึ้น ซความเครียดจะลดลงและสมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น
● ผู้สูงอายุจะเกิดภาวะสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ได้ง่ายกว่าคนในวัยอื่นๆ โดยไม่ ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่จากการทดลองโดยการให้กรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิกแก่ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ใน ประเทศญี่ปุ่น พบว่าความสามารถในการคำนวณ ความสามารถในการตัดสินใจ และประสิทธิภาพระดับสูงของผู้ป่วยดีขึ้น โดยกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับDHA เป็นเวลา 6 เดือนจะมีอาการที่ดีขึ้นมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับ DHA อย่างเห็นได้ชัด
วิธีรับประทาน
รับประทานครั้งละ 1 ซอฟท์เจล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
เลขที่จดแจ้ง / เลข อย. 13-2-00763-2-0071
ออเดอร์เลส การ์ลิก ในหัวกระเทียมมีสารสำคัญคือสารประกอบออแกนโนซัลเฟอร์ organosulfur compounds (OSCs) และโปรตีน Alliinase ซึ่งมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น การลดอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยหลอดเลือดแข็งตัว โดยยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดและลดระดับไขมันในเลือด นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ความดันโลหิตและลดระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
กระเทียม กลิ่นแรง ประโยชน์แรงกว่า
● เป็นสารลดอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงลดอนุมูลอิสระได้หลายกลุ่ม ออกฤทธิ์ได้โดยตรงพร้อมทำงานไม่ต้องรอสารอื่นมาเร่ง และยังไปกระตุ้นสารลดอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น กลูต้าไธโอน ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
● มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ กระเทียมสามารถต้านการสร้างสารอักเสบภายในร่างกายได้หลายชนิด ยังยั้งได้หลายกลไก
● กันโรคหัวใจและหลอดเลือด กระเทียมช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีเพราะไปยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด อีกทั้งกระเทียมยังช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งจากการเกาะของไขมัน และช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้
● มีฤทธิ์ช่วยความดันโลหิต เนื่องจากมีฤทธิ์ไปขยายหลอดเลือด มีการศึกษาในหนูเมื่อให้ใช้กระเทียมคู่กับยาลดความดันพบว่าสามารถลดความดันตัวบน (SBP) ได้มากกว่าการใช้ยาลดความดันเพียงอย่างเดียว
วิธีรับประทาน
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
เลขที่จดแจ้ง / เลข อย. 13-2-00763-2-0087




คำเตือน เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษาโรค
|