ยาตัวนี้คืออะไร?
ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เป็นกลุ่มยาต้านไวรัสซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ได้ โดยในปัจจุบันนิยมนำมาใช้เป็นยาหลักในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามแนวทางการดูแลรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 จากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยใช้คู่กับยาต้านไวรัสชนิดอื่นหรือยารักษาตามอาการตัวอื่นเสริมไป จากผลการศึกษาพบว่ายาฟาวิพิราเวียร์มีความปลอดภัย สามารถลดความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19ได้
ยาฟาวิพิราเวียร์ออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาตัวนี้มีกลไกการออกฤทธิ์ 2 แบบ คือ
- ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสโดยตัวยาจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ที่ชื่อว่า RNA-dependent RNA polymerase ซึ่งมีอยู่ในไวรัส ส่งผลให้การแบ่งตัวของไวรัสถูกยับยั้ง
- ทำให้เชื้อไวรัสมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างส่งผลให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์สามารถเข้าไปกำจัดเชื้อได้หรือส่งผลให้เชื้อมีปริมาณน้อยลงจนไม่สามารถก่อโรคได้อีก
ใครจำเป็นต้องใช้ยาตัวนี้?
การใช้ยาตัวนี้และวิธีรับประทานยาควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ โดยส่วนใหญ่จะพิจารณาให้ผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบที่มีอาการรุนแรงและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่
- อายุมากกว่า 60 ปี
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน มีภาวะอ้วน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ส่วนผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง แพทย์จะพิจารณาให้กักตัวและรักษาตามอาการอยู่ที่บ้าน (Home isolation) โดยยึดหลักตามประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
- งดออกจากบ้านไปยังชุมชนทุกกรณี ยกเว้นการเดินทางไปโรงพยาบาลตามนัดหมาย
- แยกห้องนอนจากผู้อื่นในบ้าน หากไม่มีห้องนอนแยก ให้นอนห่างจากผู้อื่น 3-5 เมตรและควรเป็นห้องที่เปิดให้อากาศระบายได้ดี ควรนอนใต้ลม
- ควรแยกห้องน้ำ แต่หากไม่ได้ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือแอลกอฮอล์หลังใช้ห้องน้ำทุกครั้ง
- สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
- ล้างด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระและทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์ 70%
- ไม่ร่วมวงรับประทานอาหารกับผู้อื่น
- รักษาระยะห่างจากผู้อื่น 2 เมตร และใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อมีการพบปะ
- ดื่มน้ำสะอาด รับประทานอาหาร สุก สะอาดและมีประโยชน์
- หากมีอาการ ไขสูง แน่นหน้าอก ไอมาก หอบเหนื่อย หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้รีบติดต่อสถานพยาบาลหรือหากต้องเดินทางเองให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- หลังจากครบกำหนดการกักตัว สามารถประกอบกิจกรรมทางสังคมและทำงานได้ปกติตามแนวทางวิถีชีวิตใหม่ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การทำความสะอาดมือ การรักษาระยะห่าง