Skip to content

ผิวหนังถือเป็นปราการด่านแรกในการป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมและเชื้อก่อโรคต่าง ๆ เป็นหนึ่งในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมไปถึงป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำ (dehydration) ป้องกันการถูกทำลายจากแสง UV และการบาดเจ็บอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่มีกระบวนการ metabolism และการสร้างพลังงานระดับเซลล์ เพื่อผลิตความร้อนและควบคุมการรักษาสมดุลความร้อนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

สำหรับผู้ที่ละเลยการดูแลผิวพรรณให้แข็งแรง อาจจะด้วยชีวิตที่เร่งรีบและคิดว่า การดูแลผิวเป็นเพียงตัวเลือกของคนที่รักสวยรักงามเท่านั้น ความคิดนี้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะนอกจากจะได้รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีขึ้น ยังทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย สำหรับบทความนี้จะขอนำเสนอหนึ่งในทางเลือกของการรักษาผิว ด้วยประโยชน์จากสารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape seed extract)

ในเมล็ดขององุ่นสายพันธุ์ Vitis vinifera ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่นิยมนำมาผลิตไวน์แดง อุดมไปด้วยสารในกลุ่ม Polyphenols โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาร Proanthocyanidins หรือ OPCs (Oligomeric Procyanidins) ซึ่งมีประโยชน์ในการต้านกระบวนการอักเสบ (Anti-inflammation) และกระบวนการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)

จากงานวิจัยทางการแพทย์มากมายระบุว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่น มีความสามารถในการช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ จะปกป้องไม่ให้เซลล์เผชิญกับสภาวะ Oxidative stress ซึ่งเป็นบ่อเกิดของการกระตุ้นกลไกการเกิดเซลล์มะเร็งและความแก่ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ สาเหตุ จากทั้งในสิ่งแวดล้อม เช่น แสง UV, รังสีที่ก่อไอออนต่าง ๆ เช่น X-rays มลภาวะและโลหะหนัก เป็นต้น รวมถึงอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเองภายในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงกระตุ้นกระบวนการอักเสบ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง

ประโยชน์ที่ได้จากสารสกัดเมล็ดองุ่นในแง่มุมการต้านอนุมูลอิสระ และต้านกระบวนการอักเสบ

  • ผิวสวยกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ และช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว
  • ทำให้หลอดเลือดฝอยมีความแข็งแรง ช่วยบรรเทาความผิดปกติของเส้นเลือดขอด เส้นเลือดฝอยแตก
  • เป็นส่วนหนึ่งในการยับยั้งปัจจัยก่อโรคเรื้อรังต่างๆ ที่พบได้บ่อย

                    นอกจากนี้ ในน้ำมันของเมล็ดองุ่น (Grape seed oil) ยังประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ ในการลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune disease) การบริโภคสารสกัดเมล็ดองุ่น ควรพิจารณาที่ให้สารสำคัญ OPCs ตั้งแต่ 95% ขึ้นไป โดยเริ่มต้นที่วันละ 50 มิลลิกรัม สำหรับการดูแลผิว หากรับประทานเพื่อหวังผลการรักษาเส้นเลือดขอด แนะนำที่วันละ 150-300 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าสามารถรับประทานได้มากถึง 600 มิลลิกรัมต่อวันโดยไม่พบผลข้างเคียง