Skip to content

คอลลาเจน เป็นสายของโปรตีนซึ่งพบมากที่สุดในสัตว์ เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังและโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง เส้นเอ็น หลอดเลือด กระดูก ข้อ เป็นต้น โดยทั่วไปร่างกายจะมีการสร้างและการสลายคอลลาเจนในปริมาณที่สมดุลกัน แต่พบว่าเมื่ออายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนจะค่อย ๆ ลดลง ส่งผลต่อความแข็งแรงของผิวและอวัยวะต่าง ๆ ที่มีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบ

คอลลาเจนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

  1. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง
  2. ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอย
  3. ช่วยเรื่องสุขภาพของข้อต่อ เช่น ลดการอักเสบของเยื่อหุ้มข้อ การบาดเจ็บขอข้อในการทำกิจกรรมต่าง ๆช่วยลดและความรู้สึกไม่สบายของข้อ รวมถึงลดอาการต่าง ๆ ของโรคข้อเข่าเสื่อม
  4. การรับประทานคอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยในการยับยั้งเอนไซม์ matrix metalloproteinase ชนิดที่ 2 และ 9 ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบมากในมะเร็งหลายชนิด

Collagen ที่ทานอยู่นั้น ทำให้สวยจริงหรอ ?

ผิวหนังเป็นปราการด่านแรกที่ช่วยปกป้องร่างกายของเราจากสิ่งแวดล้อมภายนอก มลภาวะต่าง ๆ เช่น แสงแดด อุณหภูมิ ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้ผิวเกิดความเสื่อมชรา คอลลาเจนใต้ผิวหนังถูกทำลาย นอกจากนี้ยังพบอีกว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นการสร้างคอลลาเจนลดลง ขณะที่การสลายคอลลาเจนอาจคงที่หรือเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย

มีการศึกษาพบว่าการรับประทานคอลลาเจนมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวได้ ดังนั้นจึงมีการนำคอลลาเจนมารับประทานเสริมเพื่อช่วยดูแลสุขภาพผิว แต่คอลลาเจนมีหลายชนิด และให้ปริมาณกรดอะมิโนต่างกัน ขนาดโมเลกุลส่งผลให้คอลลาเจนมีการดูดซึมที่แตกต่างกัน รวมถึงสารปนเปื้อนหรือสารเคมีตกค้างจากกระบวนการผลิตซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อคุณภาพของคอลลาเจนทั้งสิ้น

คอลลาเจนที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพควรเลือกอย่างไร

  • กลิ่นคาว : โดยทั่วไปคอลลาเจนมักสกัดมาจากสัตว์จึงมักมีกลิ่นคาว สามารถนำมาผสมในอาหารและเครื่องดื่มได้เพื่อลดปริมาณของกลิ่นและจะทำให้การรับประทานคอลลาเจนได้ง่ายขึ้น
  • ดูดซึมไปใช้ได้จริง : คอลลาเจนขนาดเล็กจะถูกดูดได้ดีโดยเฉพาะคอลลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งเป็นคอลลาเจนขนาดเล็กและมีการดูดซึมได้ดีและรวดเร็วที่สุด มีการศึกษาพบว่าคอลลาเจนที่มีสายยาว แทบจะไม่ถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เลย
  • มีสารโลหะหนักตกค้าง : คอลลาเจนจากสัตว์อาจมีสารโลหะหนักปนเปื้อน เช่น ปรอท ตะกั่ว หรือ แคดเมียม เป็นต้น สารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดผลต่อร่างกายคือ อ่อนเพลีย อ่อนแรง ผื่นภูมิแพ้ หายใจติดขัด ปวดท้อง อาเจียน เป็นต้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกทานคอลลาเจนที่มีการตรวจสารโลหะหนักปนเปื้อน
  • สารตกค้างจากกระบวนการสกัดคอลลาเจน : ในการสกัดคอลลาเจนโดยทั่วไปมักใช้วิธีทางเคมี (การสกัดด้วยกรด) เพื่อเป็นการลดต้นทุน ซึ่งอาจตกค้างอยู่ในผลิตภัณฑ์ แต่มีการสกัดอีกวิธีหนึ่งคือ การสกัดด้วยวิธีทางชีวภาพ (การสกัดด้วยเอ็นไซม์) การสกัดคอลลาเจนด้วยวิธีนี้จะใช้เอ็นไซม์จากพืชในธรรมชาติในการสกัดจึงมีความปลอดภัยมากกว่า
  • แหล่งที่มาของวัตุดิบ : ในช่วงที่มีการระบาดของโรคในหมูหรือวัว ทำให้คอลลาเจนจากปลากลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม และพบว่าส่วนของเกล็ดปลา (โดยเฉพาะปลาเกล็ดใส) จะเป็นส่วนที่ให้คอลลาเจนสูงกว่าส่วนอื่นและมีความปลอดภัย

คำแนะนำและข้อควรระวังในการรับประทานคอลลาเจน

  • ควรเลือกรับประทานคอลลาเจนที่เป็นสายสั้น หรือมีโมเลกุลขนาดเล็กเนื่องจากสามารถดูดซึมได้ดีและรวดเร็ว
  • เพื่อความปลอดภัยองค์การอาหารและยามีคำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทานคอลลาเจนเสริม โดยแนะนำว่าสามารถทานเสริมได้ 5,000 – 7,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ควรเกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ระมัดระวังการทานคอลลาเจนจากปลาในกรณีที่มีประวัติแพ้ปลาหรืออาหารทะเล
click ที่นี่