Skip to content

กรดไหลย้อน หรือ Gastroesophageal Reflux Disease ซึ่งเรียกกันย่อ ๆ ว่า GERD  สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมากมักจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

อาการ

แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ หน้าอก และลำคอ (Heartburn)  เป็นมากขึ้นเมื่อมีพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ยกของหนัก โน้มตัวไปข้างหน้า หรือนอนหงายและอาจมีอาการอื่น ๆที่อาจเกิดขึ้น เช่น เรอเปรี้ยว มีกลิ่นปาก ไอแห้ง ระคายคอ รวมถึงอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ เช่น ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้หรืออาเจียนหลังรับประทานอาหาร

อาการรุนแรงที่ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน: กลืนลำบาก กลืนเจ็บ, เลือดออกในทางเดินอาหาร, ภาวะซีด, น้ำหนักลดโดยไม่ได้ตั้งใจ, อาเจียนมากกว่า 10 ครั้งใน 1 วัน  อาการเหล่านี้ควรพบแพทย์และได้รับการตรวจด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน

พฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อน

  • การสูบบุหรี่
  • ความเครียดและกังวล ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
  • การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
  • มีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อคุณมีอาการของโรคกรดไหลย้อน

  • อาหารที่มีความมันสูง เช่น ของทอด ของมัน ฟาสต์ฟู้ด ช็อกโกแลต รวมไปถึงอาหารจำพวกกะทิ นมและผลิตภัณฑ์นม เช่น ชีส ไอศกรีม
  • อาหารและเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรด เช่น ชา กาแฟ โซดา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด
  • อาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • อาหารหมักดอง

การรักษากรดไหลย้อนที่ดีที่สุดคือการหมั่นสังเกตพฤติกรรมตนเองและปรับปรุงแก้ไข ควบคู่ไปกับการใช้ยา

ส่วนการรักษา ตามแนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนในประเทศไทย พ.ศ. 2563

  • รักษาด้วยยากลุ่ม Proton-pump inhibitors (PPI) เป็นเวลาอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์
  • รักษาด้วยยาอื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการร่วมของผู้ป่วย เช่น Sodium Algenate, Domperidone, Metoclopramide, Antacids

ถ้าไม่อยากเป็นกรดไหลย้อนบ่อยๆ ควรปฏิบัติดังนี้

  • รับประทานโปรไบโอติกส์ที่มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลลำไส้และทางเดินอาหาร ช่วยย่อยกากอาหารเก่าที่สะสมในลำไส้ ซึ่งอาจปล่อยแก๊สพิษ และคอยดันอาหารที่เข้าไปใหม่ออกมาทางหลอดอาหาร สมดุลที่ดีของโปรไบโอติกในลำไส้จะช่วยลดอาการท้องอืด และกรดไหลย้อนได้อย่างถาวร
  • สมุนไพรที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการของโรคกระเพาะและกรดไหลย้อน เช่น ขมิ้นชัน ขิง มะละกอ แก้วมังกร ตรีผลา เป็นต้น
click ที่นี่