Skip to content

กาแฟ เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากทั่วโลก ทำมาจากการบดเมล็ดกาแฟและสกัดด้วยน้ำร้อน มีรสชาติที่หลากหลายตามวิธีการคั่วและปรุงรสที่แตกต่างกันขึ้น กาแฟมีปริมาณคาเฟอีนที่ต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทและวิธีการทำ เช่น กาแฟดำ (Black Coffee), กาแฟอาราบิก้า (Arabica Coffee), และ กาแฟโรบัสต้า (Robusta Coffee) เป็นต้น

การบริโภคกาแฟที่มีการปรุงรสที่แตกต่างกัน โดยการปรุงรสกาแฟที่มีผลต่อร่างกายเราสามารถจำแนกได้ 2 รูปแบบ คือ กาแฟดำ และ กาแฟผสมนมหรือน้ำตาล  และควรระมัดระวังในการบริโภคสิ่งที่เพิ่มเข้าไปในกาแฟผสมนม เช่น นมสดหรือน้ำตาลที่มีปริมาณสูง ที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้

กาแฟดำหรือ “Black Coffee” เป็นกาแฟที่ชนิดพื้นฐานที่สุด โดยปกติแล้ว กาแฟดำประกอบด้วยเมล็ดกาแฟที่ถูกบดและผงตามที่ต้องการ ซึ่งนำไปต้มกับน้ำร้อน จนกาแฟถูกสกัดออกมาในรูปของน้ำกาแฟ โดยไม่มีการเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ กาแฟดำมีรสชาติที่เข้มข้น โดยมักจะมีลักษณะเปรี้ยวหรือขมของกาแฟแท้ การกินกาแฟดำมีข้อดีมากมาย คือ

ส่งเสริมสมรรถภาพสมอง: กาแฟดำมีความสามารถในการกระตุ้นสมรรถภาพสมอง ทำให้คุณมีสมาธิและความจำดีขึ้น โดยการเพิ่มการการไหลเวียนโลหิตไปยังสมอง การไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้นช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นมากขึ้น และคาเฟอีนยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทกลาง โดยเพิ่มการปล่อยสารสื่อประสาทบางชนิด เช่น โดปามีน (dopamine) และนอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) ซึ่งสารสื่อประสาทเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองหลายอย่าง เช่น ความจำ การเรียนรู้ อารมณ์ และการจดจ่อ

เพิ่มพลังงาน: การดื่มกาแฟดำสามารถช่วยเพิ่มพลังงานและความสดชื่นให้กับร่างกาย จากการกระตุ้นการทำงานของคาเฟอีน ทำให้ร่างกายสดชื่น

ลดความเสี่ยงของโรค: การดื่มกาแฟดำอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน โดยการรับประทานกาแฟดำสามารถการเพิ่มความไวของอินซูลินให้กับเซลล์ในร่างกาย และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด  อีกทั้งลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง โรคทางระบบประสาทบางชนิด เช่น โรคพาร์กินสันและโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น

บำรุงสุขภาพหัวใจ: มีธาตุอาหารที่พบในกาแฟดำที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โดยการรับประทานกาแฟดำสมารถเพิ่มคลอเรสเตอรอลที่ดี (HDL) และลดปริมาณของคอเลสเตอรอลเลว (LDL) ได้ อีกทั้งพบสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟที่จะป้องกันการสร้างความบาดเจ็บแก่หัวใจ เช่น พอลิฟีนอล (polyphenol), คาเฟอีน (caffeine)  และ คอร์ดิโอล (chlorogenic acid) เป็นต้น

มีสารต้านอนุมูลอิสระ: กาแฟดำมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย และเป็นผลที่สำคัญในการป้องกันโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคหัวใจและมะเร็ง โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่พบ เช่น คอร์ดิโอล (chlorogenic acid), พอลิฟีนอล (polyphenol), คาเฟอีน (caffeine)  และ กรดเฟอริค (ferric acid) เป็นต้น

การกินกาแฟดำอย่างเสริมสร้างสุขภาพและมีประโยชน์ แต่ควรระมัดระวังไม่ให้บริโภคมากเกินไป เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ และควรปรับการบริโภคตามความต้องการและสุขภาพของตัวเองด้วย อย่างไรก็ตาม ผลของกาแฟดำอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน การดื่มกาแฟดำในปริมาณที่พอเหมาะ (ประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน) โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยและอาจส่งผลดีต่อสมอง การดื่มมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการนอนหลับ ความวิตกกังวล และความดันโลหิตสูง และในคนที่มีความไวต่อคาเฟอีนมากอาจพบกับผลข้างเคียง เช่น ใจสั่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ อีกทั้งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรควิตกกังวล หรือโรคนอนไม่หลับ ควรเลี่ยงการรับประทานกาแฟ