แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
วิตามินรวม (Multi-Vitamins) คืออาหารเสริมที่รวมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ บี ซี ดี อี และแร่ธาตุจำเป็น เพื่อช่วยชดเชยในกรณีที่ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจากการกินอาหารประจำวัน วิตามินรวมมีบทบาทในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย และสนับสนุนสมรรถภาพของสมองและร่างกาย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ต้องการบำรุงสุขภาพเพิ่มเติม
วิตามินรวม คือวิตามินเสริมที่ประกอบด้วยวิตามินหลากหลายชนิดประกอบด้วย วิตามิน เอ บี ซี ดี อี แร่ธาตุและอื่น ๆ ซึ่งพบได้ในอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน โดยจะนำมาใช้ในกรณีที่อาจได้รับวิตามินจากอาหารไม่เพียงพอ หรือเพื่อรักษาภาวะขาดวิตามินของร่างกายที่อาจเกิดจากอาการป่วยบางชนิด
ปริมาณการใช้วิตามินรวม
ผลิตภัณฑ์วิตามินรวมมีหลากหลายสูตร หลากหลายชนิดให้เลือกใช้ ทำให้อาจมีสัดส่วนของวิตามินแตกต่างกันไป นอกจากนี้บางชนิดยังมีส่วนผสมของแร่ธาตุชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม และสังกะสี ดังนั้นสูตรของวิตามินรวม ปริมาณ และระยะเวลาในการใช้จึงต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลและขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
การใช้วิตามินรวม
1. รับประทานวิตามินรวมตามปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์กำหนด และปฏิบัติตามฉลากกำกับการใช้อย่างเคร่งครัด
2. รับประทานระหว่างมื้ออาหารหรือรับประทานพร้อมมื้ออาหารก็ได้ แต่หากมีอาการอาหารไม่ย่อยก็ควรรับประทานพร้อมมื้ออาหารเพื่อลดอาการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร
3. ควรรับประทานวิตามินบีรวมร่วมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว อย่ารับประทานร่วมกับนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม รวมทั้งแคลเซียมเสริม หรือยาลดกรดที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากแคลเซียมอาจส่งผลให้ร่างกายดูดซึมส่วนผสมบางชนิดในวิตามินรวมได้ไม่ดี
4. หากเป็นวิตามินรวมชนิดเคี้ยวได้ ควรเคี้ยวก่อนกลืน
5. วิตามินรวมชนิดน้ำควรใช้อุปกรณ์วัดปริมาณการใช้แบบเฉพาะเจาะจง หากไม่มี สามารถสอบถามกับเภสัชกร
6. กรณีลืมรับประทาน ควรรับประทานทันทีที่นึกได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาแล้วให้ข้ามไปรับประทานครั้งต่อไปได้เลย อย่าเพิ่มปริมาณการใช้เป็น 2 เท่า
7. ห้ามรับประทานวิตามินรวมมากกว่า 1 ชนิดในคราวเดียวกัน ยกเว้นเมื่อเป็นคำสั่งจากแพทย์ เพราะอาจทำให้ได้รับวิตามินในปริมาณมากเกินจนเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมาได้
8. หากอยู่ในภาวะที่ต้องรับประทานอาหารโซเดียมต่ำควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้วิตามินหรืออาหารเสริมแร่ธาตุใด ๆ รวมทั้งวิตามินรวม
9. อย่าเริ่มใช้ หยุดการใช้ หรือเปลี่ยนปริมาณการรับประทานวิตามินเองโดยพลการ
10. หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ ควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
11. เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากความชื้นและความร้อน และระวังอย่าให้วิตามินรวมชนิดน้ำแข็งตัว
รูปแบบของวิตามินรวม
✿ ยารับประทานประเภทเม็ด แคปซูล แคปซูลนิ่ม
✿ ยาเม็ดและยาผงที่ต้องละลายน้ำก่อนรับประทาน
✿ ยาน้ำเชือมสำหรับเด็ก
✿ ยาฉีดที่ต้องให้ทางหลอดเลือดดำ
วิตามินรวมเหมาะกับใคร
ผลการศึกษาวิจัยหลายชิ้นบ่งบอกว่า วิตามินรวมอาจจะไม่ได้ช่วยบำรุงสุขภาพให้ใครต่อใครอย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกัน เนื่องจากวิตามินรวมมีประโยชน์เฉพาะกับผู้คนบางกลุ่มเท่านั้น อย่างเช่น คนที่มักทานแต่อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คนที่มีปัญหาในเรื่องการย่อยอาหาร (เช่น คนที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่เป็นโรคทางเดินอาหารอักเสบ) และผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มจะขาดวิตามินและเกลือแร่บางอย่าง
หน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างสถาบันสุขภาพแห่งชาติในอเมริกา แนะนำให้ผู้หญิงที่อยากจะตั้งครรภ์รับประทานกรดโฟลิคขนาด 400 ไมโครกรัมทุกวัน (ไม่ว่าจะเป็นอาหารจริงๆหรืออาหารเสริมก็ตาม) เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความพิการตั้งแต่กำเนิด ที่เหลือนอกนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังวางแผนจะตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์แล้ว หรือผู้ที่ขาดสารอาหารบางอย่าง ก็อาจไม่จำเป็นต้องกินวิตามินรวม
ซึ่งการขาดสารอาหารในผู้คนส่วนใหญ่นั้น มักจะขาดธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม วิตามินบี 12 และวิตามินดี ซึ่งถ้าใครขาดสารอาหารเหล่านี้ก็จะมีอาการเหนื่อยอ่อน ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ชัดเจน ฉะนั้น ถ้าใครมีปัญหาเรื่องความอ่อนเพลีย ก็ควรขอให้หมอตรวจเลือดดูว่าเป็นเพราะขาดสารอาหารพวกนี้จริงๆ หรือเปล่า
ผลข้างเคียงจากการใช้วิตามินรวม
การรับประทานวิตามินรวมตามปริมาณที่แนะนำมักไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงใด ๆ ผลข้างเคียงชนิดไม่รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ อาหารไม่ย่อย ปวดศีรษะ รู้สึกถึงรสชาติผิดปกติหรือไม่พึงประสงค์ในปาก ทั้งนี้หากพบอาการที่แสดงถึงการแพ้อันรุนแรงต่อไปนี้ควรต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
มีผื่นลมพิษ
หายใจลำบาก
อาการบวมที่ใบหน้า ลำคอ ปาก ริมฝีปาก หรือลิ้น
สามารถกินมัลติวิตามินหลังอาหารกลางวันไม่เกิน 30 นาที เพื่อลดอาหารระคายเคืองกระเพาะอาหารจากวิตามินบางตัว และเพื่อให้ไขมันจากอาหารมื้อใหญ่ในตอนเที่ยงที่กินเข้าไปช่วยเป็นตัวละลายให้ร่างกายดูดซึมวิตามิน แร่ธาตุได้ดีขึ้นด้วย
ข้อควรระวังในการใช้วิตามินรวม
1.▶ ห้ามรับประทานหากมีอาการแพ้ส่วนผสมใด ๆ ในวิตามินบีรวม
แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับโรคหรือภาวะที่กำลังเผชิญอยู่ เพราะอาจได้รับผลกระทบจากการรับประทานวิตามินรวม โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ กำลังวางแผนตั้งครรภ์ หรือหญิงที่ต้องให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่เคยมีอาการแพ้ยา อาหาร หรือสารใด ๆ
2.▶ รับประทานระหว่างมื้ออาหารหรือรับประทานพร้อมมื้ออาหารก็ได้ แต่หากมีอาการอาหารไม่ย่อยก็ควรรับประทานพร้อมมื้ออาหารเพื่อลดอาการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ควรรับประทานวิตามินบีรวมร่วมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว อย่ารับประทานร่วมกับนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม รวมทั้งแคลเซียมเสริม หรือยาลดกรดที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากแคลเซียมอาจส่งผลให้ร่างกายดูดซึมส่วนผสมบางชนิดในวิตามินรวมได้ไม่ดี
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง