365WECARE

L-cysteine 

 

สเทอีน หรือแอล-ซิสเทอีน(L-Cysteine)

 

    แอล-ซิสเทอีน เป็นกรดอะมิโน เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างโปรตีนภายในร่างกาย เช่น ผิว ผม เล็บ นอกจากนี้ L-cysteine ยังช่วยกระตุ้นการสร้างกลูตาไธโอนในร่างกาย โดย L-cysteine จะดูดซึมเข้าไปในร่างกาย แล้วถูกนำไปใช้ในกระบวนการสร้างกลูต้าไธโอน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ช่วยทำให้ผิวขาว สว่าง ใสขึ้นและหน้าที่สำคัญของแอล-ซีสเทอีน ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยทำการเปลี่ยนสารพิษ ชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ให้เป็นสารที่ละลายในน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย ช่วยป้องกันสมองและตับจากการถูกทำลายจากการดื่มแอลกฮอลล์, ยา และการสูบบุหรี่ โดยจะเข้าไปช่วยต่อต้านสารพิษ สร้างสารแอนตี้ออกซิเดนซ์โดยทำงานร่วมกันกับ Vitamin C ซ่อมแซมสารพันธุกรรมที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทซิเนส (Tisanes) ไม่ให้เปลี่ยนเป็น โดปาควินโนน (Dopaquinone) จึงมีผลทำให้สร้างเม็ดสีน้อยลง ทำให้มีผิวขาว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดเลือนลง ชะลอปฏิกริยาแห่งวัยของร่างกาย (การแก่ของเซลล์) ส่งผลให้ผิวเนียนเรียบ เปล่งปลั่ง

 

     ซีสทีน (Cystine) เป็นรูปที่เสถียรของซีสเทอีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ ซีสทีนเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับการชะลอวัย ร่างกายสามารถเปลี่ยนกลับไปกลับมาได้ระหว่าง ซีสทีนและซีสเทอีน ทั้งสองรูปถือเป็นกรดอะมิโนเดี่ยวในกระบวนการเผาผลาญอาหาร เมื่อซีสทีนถูกเผาผลาญแล้วจะได้ผลลัพธ์เป็นกรดซัลฟูริก ซึ่งจะไปทำปฏิกิริยากับสารอื่นๆ ช่วยในการขับสารพิษออกจากระบบต่างๆ ของร่างกาย ป้องกันร่างกายจากโลหะหนักที่เป็นอันตราย ทั้งยังช่วยกำจัดอนุมุลอิสระในร่างกายได้ดี

 

     ซีสทีนเป็นกรดอะมิโน ที่มีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะในซีสทีนและเมไทโอนีน จะช่วยป้องกันการเป็นพิษจากทองแดง (Copper) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีทองแดงสะสมในกร่างกายมาก เป็นข้อบ่งชี้ว่าคุณเป็นโรควิลสัน (Wilson’s disease), การสะสมทองแดงที่มากขึ้นจะเป็นพิษต่อไต สมอง และตา ซีสทีนและซีสเทอีน จะช่วยขัดขวางและปกป้องร่างกายของเราจากโลหะหนักที่เป็นอัตราย และทำหน้าที่กำจัดอนุอิสระ ให้กับร่างกายของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

     นอกจากนี้ ยังช่วยในการสร้างเอ็นไซม์ต้านอนุมูลอิสระ โดยทำหน้าที่ร่วมกับวิตามินซี ซึ่งได้ร่วมกันซ่อมแซมสารพันธุกรรม ที่อาจเปลี่ยนแปลงการเป็นมะเร็งได้ และยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย

 

     แอล-ซีสเทอีน(L-Cysteine) ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ไทซิเนส(Tysinase) ไม่ให้สามารถเปลี่ยนเป็นโดปาควินโนน( Dopaquinone) ซึ่งมีผลทำให้สร้างเม็ดสีน้อยลง จึงทำให้มีผิวขาวขึ้นได้ มีคุณสมบัติลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ต้านการเสื่อมของเซลล์ผิว ส่งผลให้ผิวหน้า ขาวสวยใส เรียบเนียน เปล่งปลั่ง แก้ปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำ

 

คุณประโยชน์ที่สำคัญของอะมิโนซีสทีน(Cystine) และซีสเทอีน(Cysteine)

 

     1. ซีสทีน ช่วยป้องกันผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยยาคีโมและการฉายรังสี ลดการสะสมของจุดด่างดำที่เกิดขึ้นตามวัย


     2. บำรุงผิว เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างโปรตีนเคราติน(keratin) ที่ใช้ในการสร้างผิว ผม เล็บให้มีสุขภาพดี ช่วยให้รากผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย


     3. การกำจัดพิษ (Detoxification) กลูตาไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย


     4. ช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose)


     5. ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) โดยส่งเสริมการสร้างกลูตาไธโอน ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดกลูตาไธโอน วิตามินซีและวิตามินอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่


     6. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Enhancer) โดยซีสเทอีน จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส นอกจากนี้กลูตาไธโอน ยังช่วยสร้าง และซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ protaglandin

 

ระดับความเป็นพิษของ แอล-ซิสเทอีน L-cysteine
 

     เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากที่สุด, กินยาเกินขนาดกับ l-cysteine เป็นไปได้ และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์. ยาหรืออาหารเสริมทุกมีระดับความเป็นพิษที่รู้จักกันที่ร่างกายจะได้รับการตอบสนองมีแนวโน้มที่เมื่อได้พบ หรือทะลุระดับนั้น. ระดับความเป็นพิษเรียกว่าขีดจำกัดสูงสุดที่ยอมรับ (ULs) และมีชุดอาหารเสริมแต่ละตัวรวมทั้ง L-cysteine. ปกติ ปลอดภัยช่วง L-cysteine ไฮโดรคลอไรด์ มี 250 – 1500 มิลลิกรัมต่อวัน. เป็นไปได้ว่า บุคคลอาจพบผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หากจะได้รับจำนวน L-cysteine ดีทน. UL ของ L-cysteine อยู่ใกล้กับ 7 กรัมต่อวัน; ดังนั้น, ปริมาณ 7 กรัมใกล้ขึ้นอาจจะเป็นพิษ และสาเหตุอันตรายผลอาจต้องรักษาพยาบาล และไม่ควรดำเนินในปริมาณสูงดังกล่าว

 

L-Cysteine อาการข้างเคียง
   ถ้าถ่ายในช่วงปกติ, คนส่วนใหญ่จะไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรงเมื่อการ L-cysteine แต่ความเป็นไปได้อยู่เสมอ. อาการข้างเคียงอาจมีอาการไม่สบายทางเดินอาหารเช่นท้องอืด, ก๊าซและหงุดหงิด.

เมื่อการเสริม, เราจะให้มีร่างกายเป็นจำนวนเงินเข้มข้นของสารประกอบแห้ง; ดังนั้น, ควรใช้น้ำกับอาหารเสริมมากมาย.

นอกจากความรู้สึกไม่สบายทางเดินอาหาร, บางผลข้างเคียงที่อาจพบเมื่อใช้ L-cysteine อาจมีอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสียหรือท้องผูก, ร่างกายปวดเมื่อยและปวด. อีกครั้ง, ส่วนใหญ่ของผลข้างเคียงเหล่านี้, เมื่อไม่รุนแรง, อาจลดลงเมื่อถ่าย L-cysteine มีน้ำ

 

ข้อควรระวัง

  •      ไม่แนะนำให้ผู้ที่เป็นเบาหวานรับประทานซิสทีน หรือซีสเทอีน วิตามินซี และวิตามินบี1 ในปริมาณมาก และควรรับประทานภายใต้การดูแลจากแพทย์เท่านั้น (การรับประทานอาหารเสริมเหล่านี้ร่วมกัน อาจลดประสิทธิภาพของอินซูลินได้)

 

     แหล่งที่พบกรดอะมิโนซีสทีน หรือซีสเทอีนในธรรมชาติ ร่างกายสามารถสังเคราะห์ซีสเทอีน(cysteine) จากกรดอะมิโนเมไธโอนีน และได้รับจากอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น สัตว์ปีก, ข้าวสาลี, บร๊อคโคลี่, ไข่, กระเทียม, หัวหอม, ผลมะเม่า และพริกแดง


     ดังนั้นสารสำคัญบางตัวที่เราไม่คุ้นเคย หรือคุ้นหู ยังอยู่ในส่วนผสมของยารักษาโรคหลักๆ และกลุ่มอาหารเสริมดูแลสุขภาพอีกด้วย
 

     

1. Phyllis A. Balch. Stress. In: a member of Penguin Group (USA) Inc. Prescription for Nutritional Healing. Forth Edition. New York: AVERY; 2006. p. 59.

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

365wecare call365wecare Line365wecare Facebook365wecare Tiktok

ฝ่ายบริการลูกค้า

080-365-3696

ติดตามเราได้ที่

หน้าหลัก

shopping_cart
0

ตะกร้าสินค้า

แบรนด์

โปรโมชั่น