แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
Licorice หรือชะเอมเทศ (Glycyrrhiza glabra) เป็นสมุนไพรที่มีรากรสหวาน นิยมนำมาใช้ทั้งในอาหารและการแพทย์แผนโบราณ งานวิจัยพบว่าสารสกัดจากชะเอมเทศ เช่น Licochalcone A และ Glabridin อาจช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีผิว จึงมีบทบาทในการลดการเกิดฝ้า กระ และปรับสีผิวให้กระจ่างใส นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผิวจากรังสี UV อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยังอยู่ในขั้นทดลอง จึงควรใช้ควบคู่กับการดูแลผิวอย่างเหมาะสม
ชะเอมเทศ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Glycyrrhiza glabra มาจากภาษากรีกแปลว่า "รากหวาน") เป็นพรรณไม้ที่มีอายุนานหลายปี ลำต้นมีความยาวประมาณ 1-2 เมตร มีรากใหญ่แตกแขนงจำนวนมาก ใบเป็นใบประกอบลักษณะเป็นรูปขนนก ก้านใบย่อยสั้นมาก แผ่นใบรูปไข่ มีใบย่อยประมาณ 9-17 ใบ ส่วนก้านใบย่อยนั้นจะสั้นมาก ใบจะเป็นสีเขียวอมเหลือง ดอกจะออกเป็นช่อ กลีบดอกจะเป็นสีม่วงอ่อน ๆ และก้านดอกจะสั้นมาก ฝักจะมีลักษณะแบน และผิวข้างนอกจะเรียบ นุ่ม
มีงานวิจัยหนึ่งพบว่า สารลิโคชาลโคน เอ (Licochalcone A) ที่สกัดได้จากชะเอมเทศอาจช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ที่เพิ่มปริมาณเม็ดสีเมลานินมากเกินไปจนทำให้ผิวคล้ำได้ ส่วนสารลิควิริทินในชะเอมเทศก็อาจช่วยปรับผิวขาวได้ด้วยการกระจายเม็ดสีเมลานิน
อีกงานวิจัยหนึ่งเผยว่า การทดลองใช้สารสกัดจากชะเอมเทศรักษาฝ้าเกิดผลดีและก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยมาก ส่วนการศึกษาที่ใช้สารกลาบริดินที่สกัดจากชะเอมเทศพบว่า สารนี้อาจมีฤทธิ์ป้องกันผิวคล้ำจากรังสี UVB และอาจช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวคล้ำจากเม็ดสีที่มากเกินไปได้เช่นเดียวกับงานวิจัยข้างต้น
แม้การศึกษาบางส่วนแสดงให้เห็นว่า สารสกัดจากชะเอมเทศอาจช่วยปรับสีผิวได้ แต่งานวิจัยเหล่านี้เป็นเพียงการศึกษาในห้องทดลองเท่านั้น จึงควรศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของชะเอมเทศในมนุษย์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก่อนจะนำผลที่ได้มาปรับใช้ในทางการแพทย์ต่อไป
1.ลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ
สารสกัดจากรากชะเอมเทศเข้าไปทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ไม่ให้ไปสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงช่วยลดการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ดี ทำให้เซลล์ผิวที่หมองคล้ำจางลงอย่างรวดเร็ว ผิวจึงขาวสดใสอยู่เสมอ
2.ช่วยลดและต้านการอักเสบของผิว
ชะเอมเทศสามารถนำมาใช้ทดแทนสารเคมีที่ช่วยทำให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างใส ช่วยลดและต้านการอักเสบของผิว แถมยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวหน้า และไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตันอีกด้วย
3.ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น
เมื่อใช้สารสกัดจากชะเอมเทศเป็นประจำ จะช่วยลดการเกิดปัญหาผิวจากมลภาวะและการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นและทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น และรอยดำที่เกิดจากแผลเป็นต่างๆ บนใบหน้าลดเลือนลงกระทั่งจางหายไป
4.ดูแลผิวหน้าให้สุขภาพดี
ชะเอมเทศช่วยลดการระคายเคือง การแพ้ รอยแดงจากสิว และควบคุมความมันบนใบหน้าทำให้การเกิดสิวลดลง มีความอ่อนโยนเหมาะกับสภาพผิวที่มีความบอบบาง ช่วยลดเลือนรอยเหี่ยวย่น และชะลออายุผิวให้คงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
5.ดูดซับรังสียูวีและบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง
ชะเอมเทศมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อีกทั้งช่วยขับพิษและดูดซับรังสียูวีจากผิว พร้อมช่วยบำรุงผิวให้สดใสเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีการค้นคว้าทดลองและงานวิจัยทางการแพทย์รับรองLicorice (Glycyrrhiza glabra)
นำชะเอมเทศไปคั่วให้เหลืองกรอบ มีกลิ่นหอม นำไปชงน้ำดื่ม จะช่วยแก้อาการชักช่วยสงบประสาท ทำให้นอนหลับได้ดี หากมีอาการร้อนในกระหายน้ำ ชะเอมเทศนำไปต้มกับน้ำจับเลี้ยงแล้วใช้ดื่มจะช่วยเสริมสรรพคุณในการระบายความร้อนและพิษร้อนในร่างกายออกได้ รักษาอาการเส้นเลือดขอดและอาการปอดบวม โดยใช้ชะเอมเทศ 50 กรัม ต้มน้ำแบ่งรับประทานก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง รักษาอาการตัวเหลือง โดยใช้สารสกัดชะเอมเทศครั้งละ 15-20 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง พบว่าอาการตัวเหลืองจะหายเป็นปกติโดยใช้เวลาประมาณ 13 วัน ใช้ภายนอกรักษาอาการอักเสบบริเวณผิวหนัง ผิวเป็นผื่นแดงและคัน หรือเป็นขุย ใช้น้ำต้มชะเอมเทศล้างก็ช่วยลดอาการดังกล่าวนั้นได้
ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ชะเอมเทศอาจทำเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดหรือแท้งบุตรได้ และยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันถึงความปลอดภัยของการใช้ชะเอมเทศในหญิงที่กำลังให้นมบุตร เพราะสารสกัดจากชะเอมเทศอาจถูกส่งผ่านทางน้ำนมและมีผลต่อทารกได้ ดังนั้น ทั้งผู้ที่ตั้งครรภ์และผู้ที่กำลังให้นมบุตรจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ชะเอมเทศเพื่อความปลอดภัย
ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดบริโภคชะเอมเทศอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะชะเอมเทศอาจรบกวนการควบคุมความดันโลหิตในระหว่างและหลังการผ่าตัด
โรคหัวใจ ชะเอมเทศอาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำอย่างผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติและภาวะหัวใจล้มเหลวได้
โรคไต การบริโภคชะเอมเทศปริมาณมากอาจทำให้อาการต่าง ๆ ของโรคไตแย่ลง
ภาวะที่มีความไวต่อฮอร์โมน เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก และเนื้องอกมดลูก เพราะชะเอมเทศอาจเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย จนทำให้อาการต่าง ๆ ของภาวะเหล่านี้แย่ลง
ภาวะที่มีโพแทสเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ ชะเอมเทศอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดลดต่ำลงกว่าเดิม ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ภาวะกล้ามเนื้อตึงตัวมาก ชะเอมเทศอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดลดต่ำลง และส่งผลให้อาการกล้ามเนื้อตึงตัวแย่ลงได้
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง