365WECARE

มะเขือพวง คืออะไร? ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

 

 มะเขือพวง เป็นพืชเขตร้อนที่พบได้ทั่วไปและนิยมใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารไทยหลายเมนู เช่น แกงป่า แกงเขียวหวาน และน้ำพริกต่าง ๆ ผลมะเขือพวงมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มีสารโซลานีน (Solanine) ซึ่งจัดเป็นอัลคาลอยด์ที่อาจส่งผลต่อความสมดุลของแคลเซียม ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไขข้อจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน แม้มะเขือพวงจะเป็นผักพื้นบ้านที่ปลอดสารพิษและให้คุณค่าทางโภชนาการ แต่การบริโภคก็ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

 

   มะเขือพวง เป็นพืชที่ขึ้นได้ทั่วไปในเขตร้อน โดยมีต้นกำเนิดในแอนทิลลีส ตั้งแต่รัฐฟลอริดา หมู่เกาะเวสต์ อินดีส์ เม็กซิโก จนถึงอเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศบราซิล เป็นพืชที่ทนต่อโรคพืชต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี การเพาะปลูกจึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงแต่อย่างใด จึงค่อนข้างมั่นใจได้ว่าการรับประทานมะเขือพวงจะได้ประโยชน์และปลอดสารพิษอย่างแน่นอน

  สำหรับในประเทศไทยบ้านเรานั้นรู้จักมะเขือพวงมานานแล้ว โดยนิยมนำผลมาใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น แกงป่า แกงคั่วปลาไหล แกงอ่อมปลาดุก แกงเขียวหวาน แกงเนื้อ น้ำพริกกะปิ น้ำพริกแมงดา น้ำพริกกุ้งสด น้ำพริกไข่เค็ม ปลาร้าทรงเครื่อง ผัดเผ็ด เป็นต้น

  มะเขือพวงมีสารโซลานีน (Solanine) ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ ผู้ที่เป็นโรคไขข้อควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน เพราะสารนี้อาจจะทำให้เกิดความไม่สมดุลของแคลเซียมในร่างกายได้

 

ลักษณะทั่วไปมะเขือพวง

 

   มะเขือพวงจัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-4เมตร ลำต้นมีหนามห่าง ๆ ลำต้นตั้งแข็งแรงเปลือกมีสีเขียวอมขาว ไม่มีรอยแตก ไม่ผลัดใบ มักจะแตกกิ่งก้านมากตั้งแต่ระดับต่ำจากลำต้น และมีหนามเช่นเดียวกับสำต้น ใบอ่อนและยอดอ่อนมีขนปกคลุม เมื่อสัมผัสจะรู้สึกอ่อนนุ่ม ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวแบบสลับ ใบรูปไข่ ขอบใบเป็นพลูกว้าง ฐานใบมนกว้าง ปลายใบแหลม ผิวใบด้านล่างมีขนรูปสามเหลี่ยมบกคลุม เมื่อสัมผัสจะนุ่ม ตัวใบขนาด 3-5 x 4-6 นิ้ว เนื้อใบอ่อนเหนียว เส้นใบแตกแบบขนนกสานกันเป็นร่างแห ดอกเป็นช่อสีขาว มีดอกย่อย 2-15 ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ออกดอกตรงตาข้างและยอดกิ่ง ก้านดอกยาวกว่า ลักษณะดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ ขณะบานเป็นรูปดาว 5 แฉก ผลเป็นผลเดี่ยวเป็นพวงคล้ายมะแว้ง แต่ขนาดใหญ่กว่า รูปกลม ผิวเกลี้ยงสีเขียว กลีบเลี้ยงที่ติดอยู่ไม่มีหนาม ขนาดผลเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.0-1.3 เซนติเมตร ผลสุกสีเหลืองอ่อน เมล็ดมีจำนวนมาก ลักษณะแบน กลม ผิวเรียบ

 

ประโยชน์ของมะเขือพวง

 

ช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนดี

ช่วยให้เจริญอาหาร

ช่วยในการย่อยอาหาร

แก้ปวด ฟกช้ำ ตรากตรำทำงานหนัก กล้ามเนื้อบริเวณเอวฟกช้ำ

แก้ไอเป็นเลือด

แก้ปวดกระเพาะ

รักษาฝีบวมมีหนองและอาการบวมอักเสบ

ช่วยขับเสมหะ

บำรุงธาตุ

ช่วยในระบบขับถ่าย

ใช้พอกเท้าแตกเป็นร่องเจ็บ

ใช้กินแก้เมา ทำให้รสเหล้าจืดลง

แก้โรคเบาหวาน

ขับปัสสาวะ

แก้ปวดฟกช้ำ

แก้พิษแมลงกัดต่อย

ช่วยบำรุงตับ

ช่วยบรรเทาโรคแผลในกระเพาะอาหาร

ช่วยให้ผ่อนคลายง่วงนอน

 

รูปแบบและขนาดวิธีใช้

 

  1. ส่วนของต้น,ใบ,ผล ตากแห้งหนัก 10-15 กรัม ใช้ต้มกับน้ำรับประทาน ช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนดี แก้ฟกช้ำ แก้ปวดกล้ามเนื้อ แก้ปวดกระเพาะ แก้ฝี และอาการบวมอักเสบรวมถึงช่วยขับเสมหะ ส่วนของรากใช้ตำพอกส้นเท้าที่แตกเป็นร่อง
  2. รากนำมาต้มหรือแช่น้ำดื่ม ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายช่วยขับปัสสาวะ 
  3. ลำต้นนำมาบด ใช้ประคบบริเวณแมลงกัดต่อย ทำให้ลดอาการปวดบวม หรือบดให้ละเอียด ใช้ประคบหรือทารักษาแผล ใบสดนำมาบดหรือขยี้ ใช้ทาประคบแผล ฝี ทำให้แผลแห้ง และหายเร็ว น้ำต้มจากใบสด นำมาดื่ม ช่วย ขับปัสสาวะ และขับเหงื่อ

 

การศึกษาทางพิษวิทยา

 

   จากข้อมูลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงคุณสมบัติที่เด่นชัดของมะเขือพวง ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลำไส้เพื่อตอบสนองต่อสารพิษที่เข้ามายังระบบทางเดินอาหาร มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันความเสื่อมและแก่ก่อนวัย มีฤทธิ์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในโรคเบาหวาน มีงานวิจัยที่ศึกษาปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระของเครื่องดื่มจากมะเขือพวงแห้ง พบว่าน้ำสมุนไพรมะเขือพวงสามารถลดระดับอนุมูลอิสระซูเปอร์ออกไซด์ หรืออนุมูลอิสระไนทริกออกไซด์ในเลือดหนูที่เป็นเบาหวานได้ ซึ่งเป็นอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดสภาวะเครียดในหนูทดลองที่มีอาการของโรคเบาหวาน ส่งผลต่อสภาวะเครียดออกซิเดชันในเม็ดเลือดแดง น้ำสมุนไพรมะเขือพวงลดไขมันที่ถูกออกซิไดซ์เป็นไขมันไม่ดีในหนูที่มีอาการเบาหวาน นอกจากนี้พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของหนูเบาหวานลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และงานวิจัยที่ประเทศแคเมอรูนพบว่า

   เมื่อให้สารสกัดน้ำและแอลกอฮอล์ของผลมะเขือพวงกับหนูทดลองพบว่าความดันโลหิตของหนูต่ำลง และลดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย โยฮิมบีนและอะโทรพีนไม่มีผลต่อฤทธิ์การลดความดันโลหิตของสารสกัดมะเขือพวง แต่โยฮิมบีนยับยั้งผลการลดอัตราการเต้นหัวใจของสารสกัดน้ำมะเขือพวง และเมื่อทดสอบการเกาะตัวของเกล็ดเลือดที่กระตุ้นโดยทรอมบินหรืออะดีโนซีนไตรฟอสเฟต พบว่าสารสกัดน้ำมะเขือพวงยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดจากผลของสารทั้งสองดังกล่าว ฤทธิ์ลดความดันโลหิตของสารสกัดผลมะเขือพวงทั้ง 2 ชนิดน่าจะเกิดจากการทำให้หัวใจเต้นช้าลง ผนวกกับผลยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดทำให้มะเขือพวงมีประโยชน์สำหรับผู้มีความดันโลหิตสูงและมีปัญหาเรื่องการรวมตัวของเกล็ดเลือด ตามที่มีการใช้งานมาแต่ดั้งเดิมนั่นเอง

 

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

 

  •  มะเขือพวงมีสารโซลานิน (Solanine) ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ ซึ่งสารนี้อาจจะทำให้เกิดความไม่สมดุลของแคลเซียมในร่างกายได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคไขข้อและโรคกระดูดควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน
  •  การได้รับสารโซลานีนจำนวนมากในผู้ที่ไวต่อสารโซลานีน อาจเกิดอาการไม่ให้สุกด้วยความร้อน หรืออาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ท้องเสีย ปวดหัว อาเจียน
  •  สำหรับลดผลกระทบจากสารโซลานีน ทำได้โดยนำผลมะเขือพวงที่จะรับประทานไม่ทำให้สุกด้วยความร้อน หรืออาจรับประทานอาหารกลุ่ม นม-เนย ควบคู่ไปกับการรับประทานมะเขือพวงด้วยก็ได้
  •  การรับประทานมะเขือพวงดิบมากเกิน 16 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของตับได้

 

 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

365wecare call365wecare Line365wecare Facebook365wecare Tiktok

ฝ่ายบริการลูกค้า

080-365-3696

ติดตามเราได้ที่

หน้าหลัก

shopping_cart
0

ตะกร้าสินค้า

แบรนด์

โปรโมชั่น