แบรนด์
บทความ
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
ไมเกรน (Migraine)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
สารสกัดเอคไคเนเชีย (Echinesia)
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
L-Carnitine หรือแอล-คาร์นิทีน เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้จากไลซีนและเมไทโอนีน มีบทบาทสำคัญในการขนส่งกรดไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรียเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน จึงช่วยลดมวลไขมัน เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และลดความเหนื่อยล้า ร่างกายสามารถรับแอล-คาร์นิทีนเพิ่มเติมได้จากอาหาร เช่น เนื้อแดง อะโวคาโด และถั่วบางชนิด การเสริม L-Carnitine ร่วมกับการออกกำลังกายยังมีงานวิจัยสนับสนุนว่าช่วยลดการอักเสบ เสริมความฟิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของร่างกาย
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของแอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) และมักเข้าใจว่าช่วยในการลดน้ำหนัก ทั้งที่ประโยชน์ของแอล-คาร์นิทีนที่มีผลยืนยันทางวิทยาศาสตร์คือ ช่วยลดมวลไขมัน เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และลดความเหนื่อยล้า ดังนั้นการทำความเข้าใจว่าแอล-คาร์นิทีนคืออะไรและมีประโยชน์กับร่างกายอย่างไรจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เลือกรับประทานได้อย่างเหมาะสม
แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างได้เองที่ตับและไตจากกรดอะมิโน 2 ตัวที่มีชื่อว่า Lysine และ Methionine ซึ่งร่างกายนำไปใช้ในกระบวนการดึงไขมันเข้าไปสร้างเป็นพลังงาน แอล-คาร์นิทีนจึงมีบทบาทสำคัญต่อขบวนการสลายกรดไขมันในร่างกาย และร่างกายยังได้รับแอล-คาร์นิทีนจากการรับประทานอาหารจำพวกกลุ่มเนื้อแดง ถั่ว อะโวคาโดได้ด้วย งานวิจัยของ The Journal of Sports Medicine and Physical Fitness ได้ศึกษาประสิทธิภาพของแอล-คาร์นิทีนในผู้หญิงน้ำหนักมาก โดยมีการศึกษาเปรียบเทียบกัน 4 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ให้ยาหลอก กลุ่มที่ 2 ให้รับประทานแอล-คาร์นิทีน กลุ่มที่ 3 ออกกำลังกายและทานยาหลอก กลุ่มที่ 4 ให้ออกกำลังกายร่วมกับรับประทานแอล-คาร์นิทีน และติดตามผลที่ 8 สัปดาห์พบว่า ในกลุ่มที่มีการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและทานแอลคาร์นิทีนวันละ 2 กรัม สามารถลดการอักเสบในร่างกาย (hs-CRP) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีการศึกษาให้รับประทานวันละ 2 กรัม ในกลุ่มคนสูงอายุและติดตามผลพบว่า ปริมาณของกล้ามเนื้อมากขึ้นและไขมันลดลง และยังลดความอ่อนล้าของร่างกายลง
แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) นับเป็นสารที่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายน้อยมากและให้ประสิทธิภาพสูง หากใช้ควบคู่กับการออกกำลังกาย โดยควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 40 – 50 นาทีขึ้นไปจึงจะช่วยสลายไขมันได้ โดยในนักกีฬาหรือคนที่กินแอล-คาร์นิทีนเสริมสำหรับการเล่นกีฬาเพื่อช่วยในการสลายไขมันและช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อดีขึ้น ควรจะต้องหยุดใช้เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พักบ้างอย่างน้อยเดือนละ 1 สัปดาห์และไม่ควรใช้ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ
แม้แอล-คาร์นิทีนจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากรับประทานมากเกินไปก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน มีงานวิจัยระบุว่า การรับประทานแอล-คาร์นิทีนมากถึง 5 กรัม หรือ 5,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือมากกว่าอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อยากอาหารเพิ่มขึ้น มีกลิ่นตัว มีผื่นแดง เป็นต้น
ดังนั้นสิ่งที่ควรตระหนักไว้เสมอ คือ การลดน้ำหนัก คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง แอล-คาร์นิทีนเป็นสารที่ช่วยทำให้ร่างกายสามารถดึงไขมันไปสร้างเป็นพลังงาน ซึ่งร่างกายสร้างได้เองและได้รับจากการรับประทานอาหารดังที่กล่าวไปตอนต้น ดังนั้นแล้วเราไม่สามารถทราบปริมาณแน่นอนของแอล-คาร์นิทีนที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน การปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนรับประทานแอล-คาร์นิทีนย่อมช่วยให้สามารถรับประทานได้เหมาะสมและเกิดประโยชน์กับร่างกายอย่างแท้จริง
การขาดแอลคาร์นิทีนเกิดขึ้นได้ในหลายกรณี เช่น ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหารหรือการดูดซึม หรือในกรณีผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ (Vegan Diet) เนื่องจากแอลคาร์นิทีนพบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ ( Meat and Animal Product)โดยจะพบในอาหารประเภทพืช (Plant Based)บางประเภทเท่านั้น ได้แก่ ถั่ว งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดธัญพืช ขนมปังโฮลวีท แต่มีปริมาณที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับปริมาณในเนื้อสัตว์
1. D-Carnitine เป็นแอล-คาร์นิทีนรูปแบบทีไม่ออกฤทธิ์ต่อร่างกาย หรือรูปแบบที่ไม่พร้อมใช้งาน (Inactive form)
2. Acetyl L-Carnitine ที่มีประโยชน์ในการบำรุงสมองและช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมอง เช่น โรคเสื่อมของระบบประสาท (Neurodegenerative Disease) และ อัลไซเมอร์
3. Propionyl L-Carnitine ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต (Blood Circulation) และสามารถเพิ่มกรดไนตริกออกไซด์ได้ และใช้ได้ผลในกลุ่มโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดตามแขนขา (Peripheral Vascular Disease)
4. L-Carnitine, L-Tartate ดูดซึมได้รวดเร็ว นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มนักกีฬา ช่วยเรื่องอาการปวดกล้ามเนื้อ muscle soreness และ การ recover หลังออกกำลังกาย
ปกติแล้วแอลคาร์นิทีนเป็นสารที่มีความปลอดภัย และมีปฏิกิริยาข้างเคียงจากการรับประทานน้อยมากแต่อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาพบว่าการทาน แอลคาร์นิทีนมากเกินไป โดยปริมาณตั้งแต่ 5000 มิลลิกรัม ต่อวัน หรือมากกว่าอาจทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้อาเจียน และวิงเวียนศรีษะ อาการข้างเคียงอื่นๆที่อาจะพบได้เช่น ผื่นแดง มีกลิ่นตัว เพิ่มความอยากอาหาร เนื่องจากแอลคาร์นิทีนเป็นสารที่พบอยู่ในอาหารประจำวันอยู่บ้างแล้วการรับประทานเพิ่มอาจต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง