ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)

แสงแดดคืออะไร ?

     แสงแดดประกอบด้วยคลื่นความถี่ของรังสี ที่แตกต่างกันตามความยาวคลื่น แสงที่มองเห็นมีความยาวคลื่นในช่วง 400-700 นาโนเมตรในขณะที่แสงที่มองไม่เห็น ที่สำคัญได้แก่ รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) มีความยาวคลื่นสั้นในช่วง 280-400 นาโนเมตร และแสงอินฟราเรดมีความยาวคลื่นยาวอยู่ในช่วง 700 นาโนเมตร - 1 มม. รังสีที่มีความยาวคลื่นยาว ทั้งแสงที่มองเห็น และอินฟราเรดในแสงแดด มีโอกาสที่จะเจาะลึกลงไปก่อให้เกิดความเสียหายในผิวได้น้อย

     ในสภาวะในปัจจุบัน โลกมีความร้อนมากขึ้น รวมทั้งสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่างจากแสงไฟที่ทำงาน หรือแสงแดดมลภาวะต่างๆ รวมไปถึงคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ที่หลายคนต้องเผชิญโดยเลี่ยงไม่ได้ กันแดด จึงจำเป็นและมีบทบาทสำคัญ ที่เป็นตัวช่วยอย่างดีในการปกป้องสุขภาพผิว และป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่เกี่ยวกับผิวหนัง กันแดดจึงมีบทบาทสำคัญ ต่อผู้คนในยุคปัจจุบัน แสงแดด ที่เราต้องเผชิญในแต่ละวันเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นที่มีผลต่อสุขภาพผิวหน้า นำไปสู่ปัญหาผิวได้หลายประการ ทั้งริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย จุดด่างดำ ฝ้า กระแดด หรือเป็นสิว แม้จะมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด แต่ก็เป็นเพียงตัวช่วยเสริมเท่านั้น เพราะการปกป้องผิวจากแสงแดดที่ดีที่สุดคือการใช้ครีมกันแดด ดังนั้นการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้คุณค้นหาครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวของคุณ

ผลิตภัณฑ์สำหรับ ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen) ที่เราแนะนำ

  • EUCERIN Sun Hydro Protech Ultra Light Fluid SPF50 50ml. ยูเซอริน ซัน ไฮโดร โพรเทค อัลตร้า ไลท์ ฟลูอิด เอสพีเอฟ50+ 50มล.
    EUCERIN Sun Hydro Protech Ultra Light Fluid SPF50 50ml. ยูเซอริน ซัน ไฮโดร โพรเทค อัลตร้า ไลท์ ฟลูอิด เอสพีเอฟ50+ 50มล.

  •  EUCERIN Sun Dry Touch CC Oil Control spf 50+Pa++++50 ml. ยูเซอริน ซัน ดราย ทัช ซีซี ออยล์ คอนโทรล เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++ 50 มล.
     EUCERIN Sun Dry Touch CC Oil Control spf 50+Pa++++50 ml. ยูเซอริน ซัน ดราย ทัช ซีซี ออยล์ คอนโทรล เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++ 50 มล.

  • EUCERIN Sun Age Repair Serum Spf50 50ml. ยูเซอริน ซัน เอจ รีแพร์ เซรั่ม เอสพีเอฟ50 50มล.
    EUCERIN Sun Age Repair Serum Spf50 50ml. ยูเซอริน ซัน เอจ รีแพร์ เซรั่ม เอสพีเอฟ50 50มล.

  • EUCERIN Sun Dry Touch SPF50 50ml. ยูเซอริน ซัน เดย์ ทัช เอสพีเอฟ50 50มล.
    EUCERIN Sun Dry Touch SPF50 50ml. ยูเซอริน ซัน เดย์ ทัช เอสพีเอฟ50 50มล.

  • EUCERIN Sun Serum Sportless Brightening 50ml. ยูเซอริน ซัน เซรั่ม สปอตเลส ไบรท์เทนนึ่ง 50มล.
    EUCERIN Sun Serum Sportless Brightening 50ml. ยูเซอริน ซัน เซรั่ม สปอตเลส ไบรท์เทนนึ่ง 50มล.

แสงแดดมีผลเสียต่อผิวอย่างไร


     แสงแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรังสียูวีเอ และรังสียูวีบี สามารถทำให้เกิดผิวไหม้, ริ้วรอยก่อนวัย, ความเสียหายต่อดวงตา, ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ, ผื่นแพ้แดด(Photoallergic) และผื่นที่เหมือนกับถูกแดดเผาไหม้( Phototoxic reactions) และแม้แต่โรคมะเร็งผิวหนัง แพทย์และแพทย์ผิวหนังจำนวนมากขึ้น เตือนถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันระหว่างความถี่ของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และขอบเขตของความเสียหายของดีเอ็นเอ โดยพบว่ากว่า 90% ของมะเร็งผิวหนังเป็นผลมาจากแสงแดด และเป็นที่ทราบกันดีว่าการรักษาที่ดีที่สุด คือการป้องกันโดยการปกป้องผิวจากแสงแดด
 

คุณสมบัติครีมกันแดดที่ควรรู้

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดในปัจจุบัน นอกจากจะต้องมีประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี UVA/UVB จากแสงแดดได้ดีแล้ว ควรมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากคลื่นรังสีและคลื่นแสงจากที่อื่นๆ ด้วย เช่น แสงจากหลอดไฟ จอโทรทัศน์ จอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ  เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้สามารถปล่อยพลังงาน High-energy visible light(HEVIS Light) หรือ แสงสีฟ้า ซึ่งมีอานุภาพในการทำร้ายเซลล์ผิวเทียบเท่ากับรังสี UVA และ UVB สามารถกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ (Free Radical) และเม็ดสีเมลานิน ต้นตอของการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รวมถึงปัญหาผิวและริ้วรอยอื่นๆ ได้เช่นกัน
เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องและดูแลปัญหาผิวได้เป็นอย่างดี วันนี้เรามีคำแนะนำการเลือกครีมกันแดด สำหรับแต่ละสภาพผิวมาแนะนำ

 

เลือกผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว

  • สำหรับคนผิวมัน : ลองเลือกใช้กันแดดที่เนื้อบางเบา เป็นเนื้อเจลหรือมีส่วนผสมของน้ำมากกว่าน้ำมัน จะทำให้ลดความมันบนใบหน้า และไม่ก่อให้เกิดสิว หรือเป็นครีมกันแดดประเภท Physical ที่มีคุณสมบัติคงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงและไม่มีปฏิกิริยากับผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่เป็นสิวด้วย
  • สำหรับผิวแพ้ง่ายหรือผิวเป็นสิว : ต้องมองหากันแดดที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี จะเป็นเนื้อเจลหรือโลชั่นก็ได้ ผิวสัมผัสไม่เหนียวเหนอะหนะเกินไป
  • สำหรับผิวแห้ง : ควรเลือกใช้ครีมกันแดดประเภทเนื้อครีม มีความเข้มข้นและชุ่มชื้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำใต้ผิว ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และมีะเซราไมด์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวที่แห้งกร้านขาดความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี

1. ค่า SPF และ PA :


SPF (Sun Protection Factor) หรือค่าความสามารถในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งตัวเลขที่ต่อท้ายจะเป็นการบอกค่าจำนวนเท่าของระยะเวลาที่ผิวสามารถทนต่อรังสีได้ โดยหลังจากนั้นถึงจะเกิดอาการแดงหรือผิวไหม้แดด ปัจจุบันในครีมกันแดดมีค่าปกป้องแตกต่างหลายระดับ เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามแต่สถานการณ์ 
PA (Protection Grade of UVA) คือ ค่าที่แสดงถึงการปกป้องผิวจากรังสี UVA ที่สามารถทำร้ายผิวได้ลึกจนทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ ริ้วรอย และความแก่ก่อนวัย ส่วนเครื่องหมาย + ที่ตามหลังนั้น คือค่าความสามารถในการปกป้องผิว

 
2.ครีมกันแดดที่ให้การปกป้องขั้นกว่า :

ครีมกันแดดทั่วไปมักจะเน้นไปที่การปกป้องรังสี UVA/UVB จากแสงแดดเป็นหลัก แต่เพราะไลฟ์สไตล์แบบชีวิตติดจอของคนยุคใหม่ในปัจจุบัน การเลือกกันแดดที่ดีที่สุดจึงต้องช่วยปกป้องได้มากกว่าและต้องมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการทำร้ายผิวจากแสงแดดและรังสีต่างๆ ได้อีกด้วย 


3.ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับผิวของคุณ :

นอกจากคุณสมบัติที่สำคัญทั้ง 2 ข้อจากที่กล่าวมาแล้วนั้น หัวใจสำคัญอีกข้อคือ เนื้อสัมผัส ควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งความมันตกค้าง เกาะติดผิวแต่ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ ไม่หลุดง่ายระหว่างวัน มีส่วนผสมที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของ

 

ประโยชน์ครีมกันแดด

สารที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวี (Ultraviolet Radiation: UV) โดยช่วยให้ผิวไม่ถูกแสงแดดทำลายจนไหม้หรือเกิดจุดด่างดำต่าง ๆ รวมทั้งลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต ปกป้องชั้นผิวที่อยู่ลึก หรือสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตกลับออกไป ทั้งนี้ ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โลชั่น ครีม ขี้ผึ้ง หรือสเปรย์ครีมกันแดดสามารถแบ่งประเภทได้หลายประเภท โดยการจัดครีมกันแดดจะแบ่งออกเป็นประเภทตามกลไกการป้องกันแสงแดด และประเภทตามบริเวณที่ใช้ทา ดังนี้

 

ประเภทตามกลไกการป้องกันแสงแดด enlightened

หากพิจารณากลไกการป้องกันแสงแดด ครีมกันแดดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สารกันแดดแบบเคมี และสารกันแดดแบบกายภาพ ดังนี้

  • ʕ·ᴥ·ʔ สารกันแดดแบบเคมี (Chemical Absorbers) ครีมกันแดดประเภทนี้จะปกป้องผิวจากแสงแดด โดยใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติดูดซับแสงแดดที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีบนผิวหนัง สารกันแดดชนิดนี้มีประสิทธิภาพต่างกันไปตามชนิดของสารกรองแสงที่ช่วยป้องกันรังสียูวีเอ (Ultraviolet A) และรังสียูวีบี (Ultraviolet B) ทั้งนี้ สารกันแดดแบบเคมีมักไม่คงทน รวมทั้งก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้   
  • ʕ·ᴥ·ʔ สารกันแดดแบบกายภาพ (Physical Blockers) ครีมกันแดดที่ผสมสารกันแดดแบบกายภาพ จะปกป้องผิวจากแสงแดด โดยใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติสะท้อนรังสีจากแสงแดดออกไป สารกันแดดชนิดนี้ป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกับผิวหนัง อย่างไรก็ตาม สารกันแดดแบบกายภาพจะมีเนื้อครีมที่ข้นและเหนียวเหนอะหนะ

 

ประเภทตามบริเวณที่ใช้ทา enlightened


     ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ซึ่งอาจแบ่งประเภทตามบริเวณที่ใช้ทาครีมกันแดด โดยทั่วไปแล้ว ครีมกันแดดจะมีทั้งแบบโลชั่น ครีม เจล ขี้ผึ้ง สเปรย์ หรือผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่น ๆ ซึ่งมีประโยชน์ใช้สอยและเหมาะกับการใช้ทาเพื่อปกป้องแสงแดดตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

      แบบครีม เหมาะใช้ทาบริเวณใบหน้าและผู้ที่มีผิวแห้ง 

      แบบเจล เหมาะสำหรับทาบริเวณที่มีขน เช่น หนังศีรษะหรือหน้าอกของผู้ชาย

      แบบแท่ง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบแท่ง อาจผสมสารกันแดดร่วมด้วย ซึ่งเหมาะใช้ทาบริเวณที่อยู่รอบดวงตา

      แบบสเปรย์ สารกันแดดในรูปแบบสเปรย์อาจนำมาใช้ทากันแดดให้แก่เด็ก เนื่องจากทาได้ง่าย โดยควรทาสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่เพียงพอ และไม่ควรสูดดมหรือฉีดสเปรย์ใกล้วัตถุไวไฟหรือขณะที่สูบบุหรี่

       นอกจากนี้ ยังมีครีมกันแดดที่ผลิตขึ้นมาสำหรับเด็กหรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ รวมทั้งผสมสารป้องกันแสงไว้ในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ซึ่งควรใช้ตามวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ไม่ควรนำมาใช้เพื่อป้องกันแสงแดด

 

 

ผลเสียของการไม่ทาผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ⚡ 

 

 ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

หากโดนแสงแดดมาก ๆ โดยที่ไม่มีครีมกันแดดป้องกันไว้เลย ก็จะทำให้ผิวของเราคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเมื่อแสงแดดเข้าสู่ผิว แล้วไม่เจอครีมกันแดดป้องกัน ผิวของเราจะทำหน้าที่ปกป้องผิวตัวเอง ด้วยการผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น เลยส่งผลให้ผิวเราคล้ำขึ้นนั่นเอง และอีกหนึ่งผลเสียที่ตามมาก็คือ สีผิวจะไม่สม่ำเสมอกันด้วย

 เพิ่มริ้วรอย ทำให้แก่ก่อนวัย

ริ้วรอยก่อนวัยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากแสงแดด รวมถึงฝ้า กระ จุดด่างจากอายุ (หรือที่เรียกว่า “Liver spot”), หลอดเลือดดำที่มีลักษณะเหมือนใยแมงมุม (Spider Vein) บนใบหน้า ผิวหยาบ และริ้วรอย ทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงไปถึงการสัมผัสแสงแด

 ผิวไหม้ 

เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุดของความเสียหายจากดวงอาทิตย์และส่วนใหญ่เกิดจากรังสียูวีบี มีลักษณะ ผิวสีแดง เจ็บและพุพอง อาการเหล่านี้อาจไม่ปรากฏขึ้นทันที อาจใช้เวลาถึงห้าชั่วโมงจึงปรากฏ  ผิวไหม้แดด (Sunburn) สามารถป้องกันได้โดย การใช้ครีมกันแดดทุกวัน และโดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดวงอาทิตย์เมื่อรังสียูวีแรง (10:00-4:00) หลักการรักษาการถูกแดดเผาอคือการระบายความร้อนที่ผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการปวดและการอักเสบ รวมถึงการใช้ผ้าสักหลาดเย็นประคบบริเวณพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เย็นปลอบประโลมผิว 'หลังจากสัมผัสแสงจากดวงอาทิตย์

 ฝ้า กระ ถามหา

อัลตราไวโอเลตในแสงแดด เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนส่งผลให้ผิวคล้ำขึ้น และเกิดฝ้ากระได้ การโดนแดดสะสมเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีการป้องกัน อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

 มะเร็งผิวหนัง

โรคมะเร็งผิวหนังมีแนวโน้มที่จะเกิดกับผิวหนังบริเวณที่สัมผัสกับดวงอาทิตย์ ดังนั้นผิวหน้าเพื่อจึงเป็นบริเวณหนึ่งที่มีความเสี่ยง เกิดเป็นผื่นผิวหนังที่มีลักษณะหยาบเป็นขุย (Actinic keratosis) ซึ่งสามารถที่จะพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้  ผื่นผิวหนังที่มีลักษณะหยาบเป็นขุย (Actinic keratoses) เป็นสะเก็ดแห้งของผิว เกิดความเสียหายหลังจากสัมผัสแสงแดด อาจเป็นสีชมพู, สีแดง หรือสีน้ำตาล มีความกว้าง 0.5 ถึง 3 ซม. พบมากที่สุดบนใบหน้า (โดยเฉพาะริมฝีปากจมูกและหน้าผาก), คอแขน และหลังของมือ และในผู้ชายบนขอบของหู และกระโหลกศีรษะล้าน และในผู้หญิงที่ขาใต้เข่า

 

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด 

การเลือกซื้อครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันแสงแดดอย่างถูกต้อง ทำได้ ดังนี้ 

 ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA ให้เหมาะกับกิจวัตรประจำวันที่อาจส่งผลต่อคุณภาพที่ดีของแต่ละคน

           ค่า PA คือ ค่าระดับความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ (UVA) ระบุค่าความสามารถเป็นจำนวนเครื่องหมายบวก (+) PA + คือ ความสามารถในการปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ 2-4 เท่า PA ++ คือ ความสามารถในการปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ 4-8 เท่า 

     PA+ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี
     PA++ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีได้ปานกลาง ทำงานในที่ร่ม หรือในออฟฟิศ
     PA+++ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีได้มาก สามารถทำงานกลางแดดจ้าได้
     PA++++ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีได้สูงมาก ทำงานกลางแดดตลอดเวลาได้

เลือกครีมกันแดดที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม (Broad-Spectrum) ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบีเนื่องจากครีมกันแดดทุกตัวจะช่วยป้องกันรังสียูวีบี ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้และเป็นมะเร็งผิวหนัง ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดอื่น ๆ ที่ป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีจะได้รับการระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์ว่า Broad-Spectrum ส่วนครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ไม่ได้รับการระบุดังกล่าวจะป้องกันผิวไหม้ แต่ไม่ครอบคลุมการป้องกันมะเร็งผิวหนังและผิวแก่ก่อนวัย

ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่านั้น โดยค่า SPFจะช่วยบอกระดับการป้องกันผิวจากรังสียูวีบี ครีมกันแดดที่มีค่าดังกล่าวสูงก็จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้มาก โดยครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 จะกรองรังสียูวีบีได้ร้อยละ 93 ครีมกันแดดที่มีค่า 30 จะกรองได้ร้อยละ 97 และครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 กรองได้ร้อยละ 98 ส่วนครีมกันแดดที่มีค่า SPFต่ำกว่า 15 สามารถป้องกันผิวไหม้ได้ แต่ไม่ป้องกันมะเร็งผิวหนังหรือผิวแก่กว่าวัย

เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำได้ (Water Resistant) โดยครีมกันแดดชนิดนี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างที่ว่ายน้ำหรือเหงื่อออกได้นานประมาณ 40-80 นาที ผู้ใช้ควรทาครีมกันแดดซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น

เด็ก และผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหรือเกิดอาการแพ้อื่น ๆ ควรเลือกครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ผสมไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) หรือซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองได้น้อย เลี่ยงใช้ครีมกันแดดที่ผสมกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก (Para-Aminobenzoic Acid: PABA) หรือกรดพาบา หรือผสมเบนโซฟีโนน (Benzephenones) เช่น ไดออกซิเบนโซน (Dioxybenzone) ออกซิเบนโซน (Oxybenzone) หรือซอลลิเบนโซน(Sulisobenzone) รวมทั้งครีมกันแดดที่ผสมแอลกอฮอล์ น้ำหอม และวัตถุกันเสีย

 


ข้อเสียและข้อควรระวังในการใช้กันแดด sad

การใช้ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

 

1. ข้อดีของครีมกันแดด 

   ● ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ผู้ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจะได้รับประโยชน์ดังกล่าว ซึ่งช่วย:

   ● ป้องกันความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่าย

   ● ปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดเผาหรือทำลาย

   ● ช่วยไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ส่งผลให้ไม่เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าบนใบหน้าและผิวหนังส่วนอื่น

 

2. ข้อเสียของครีมกันแดด

   ● ผู้ใช้ครีมกันแดดอาจได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ครีม ดังนี้

   ● ลดการผลิตวิตามินดีของผิวหนัง ผู้ใช้ครีมกันแดดอาจรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีหรือวิตามินเสริม เพื่อเสริมสร้างวิตามินดีให้ร่างกายอย่างเพียงพอ

   ● มีคราบครีมกันแดดติดตามเสื้อผ้า เนื่องจากครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์กันแดดบางตัวผสมกรดอะมิโนเบนโซอิก หรือกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก

   ● ผิวแพ้ง่ายขึ้น เกิดการระคายเคือง หรือมีรอยแดงที่ผิว เนื่องจากครีมกันแดดมีส่วนผสมบางตัวที่ทำให้ผิวแพ้สารต่าง ๆได้ง่าย ควรล้างออกและหยุดใช้ รวมทั้งปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อเลือกใช้ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดตัวอื่นแทน

 

     ทั้งนี้ทั้งนั้น กันแดดทุกตัวในท้องตลาดที่เขียนกันข้างผลิตภัณฑ์ ไม่สามารถปกป้องดดอย่างมีประสิทธิภาพได้ 100% ทุกตัวตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ อาจจะด้วยคุณภาพของตัวสินค้า มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ รวมถึงวิธีการผลิตในท้องตลาด ก่อนจะเลือกใช้นั้นและควรเลือกสินค้าที่มีมาตรฐานที่ดีที่สุดต่อการดูแลผิวพรรณ ซึ่งจะส่งผลและประสิทธิภาพผิวอีกด้วย

 

เอกสารอ้างอิง