ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin) 

 
     การมีผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัยบนใบหน้าไม่ใช่เรื่องตลก ทั้งรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก ร่องแก้ม รวมไปถึงตีนกา ที่มักจะเกิดกับคนสูงวัย แต่เดี๋ยวนี้เจ้าริ้วรอยกลับปรากฏกับคนที่อายุยังไม่มากด้วย ทำให้คุณเกิดความกังวลใจ ขาดความมั่นใจ แม้ว่าจะประโคมครีมบำรุงไปเท่าไร ก็ไม่สามารถทำให้ริ้วรอยหายไปได้ นั่นอาจเป็นเพราะคุณมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการเกิดริ้วรอยได้ง่ายนั่นเอง 

ริ้วรอยเกิดจากอะไร 

     ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับปัญหาริ้วรอยกันเสียก่อน ส่วนมากปัญหาเรื่องริ้วรอย ความหย่อนคล้อยมักจะเกิดจากการสังเคราะห์คอลลาเจนของร่างกายที่จะลดลงเฉลี่ยปีละ 1% เป็นผลให้ความชุ่มชื้นต่างๆลดลง นอกจากนี้ ปัญหาริ้วรอยยังเกิดจากอนุมูลอิสระที่สะสมมากขึ้น เนื่องจากวิถีการดำเนินชีวิตที่ต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่มีมลพิษ ความรีบเร่ง ความเครียด และอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นนี้จะเข้าไปทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อและเซลล์ต่างๆของร่างกายรวมถึงเซลล์ผิวด้วย 

พฤติกรรมสร้างริ้วรอยบนใบหน้า  

• ✿ ชอบนอนคว่ำ : การนอนคว่ำทำให้ใบหน้าของคุณโดนกดทับกับหมอนตลอดทั้งคืน อีกทั้งครีมบำรุงหรือเซรั่มต่างๆ ที่ทาทิ้งไว้ก่อนนอนก็จะไม่ได้ผลอย่างเต็มที่เพราะถูกเช็ดออกด้วยปลอกหมอนนั่นเอง ส่วนการนอนตะแคงซ้ายหรือขวาก็เพิ่มริ้วรอยบริเวณแก้มและคางเช่นกัน ดังนั้นท่านอนที่ดีที่สุดคือนอนหงาย เพราะใบหน้าของคุณจะไม่โดนกดทับและสัมผัสกับอะไรเลย 

• ✿ ชอบการทานของหวาน : คุณอาจไม่รู้ว่าของหวานเป็นเพื่อนสนิทกับริ้วรอย เพราะของหวานที่มีน้ำตาลมากทำให้หน้าสูญเสียความยืดหยุ่น ผิวไม่เรียบเนียน เกิดริ้วรอย เพราะน้ำตาลไปทำลายโครงสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นผิวหนังของเรานั่นเอง 

• ✿ ไม่ทาครีมกันแดดเมื่อออกแดด : แสงแดดนอกจากจะทำให้ผิวคล้ำเสียแล้วยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า ต่อให้คุณทำงานในที่ร่ม หรือแทบไม่โดนแดดเลยแต่ผิวก็ยังโดนทำร้ายจากรังสียูวีได้อยู่ดี ดังนั้นก่อนออกจากบ้านควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 33 ขึ้นไป ให้ทาประมาณ 30 นาทีก่อนออกแดดทุกครั้ง 

• ✿ ดื่มน้ำไม่เพียงพอ : ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 70% โดยเฉพาะน้ำที่ประกอบอยู่ในเซลล์นั้นมีมากถึง 60% ดังนั้นหากคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะส่งผลให้เซลล์เหี่ยว ใบหน้าของเราก็จะแห้ง และเกิดรอยย่นตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดรอยเหี่ยวย่น คุณควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน 

• ✿ อยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยมลภาวะ : ฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ส่งผลให้ผิวของคุณหยาบกร้าน เกิดรอยดำรอยแดง รวมไปถึงริ้วรอยต่างๆ ดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้ ควรจะหลีกเลี่ยงบริเวณที่เต็มไปด้วยควันจากท่อไอเสียรถยนต์ 

• ✿ ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย และสูบบุหรี่เป็นประจำ : การดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ ทำให้ผิวหนังของเราขาดน้ำ เสียความยืดหยุ่น และทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ส่วนการสูบบุหรี่นอกจากสารนิโคตินที่เข้าสู่ร่างกายและอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ แล้ว การสูบบุหรี่ยังทำให้หน้าแห้ง หน้าเหี่ยว เกิดร่องลึกบริเวณใบหน้า เพราะประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนลดลง อีกทั้งยังทำให้ริมฝีปากของคุณคล้ำลงด้วย 

• ✿ พักผ่อนไม่เพียงพอ : ในเวลากลางคืนเป็นช่วงที่อวัยวะต่างๆ ในร่างกายและผิวของเราได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากคุณเข้านอนดึกหรือนอนหลับไม่ถึง 6-8 ชั่วโมงต่อคืน อาจทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ หน้าโทรม และเส้นริ้วรอยต่างๆ จะเห็นได้ชัด 

• ✿ ชอบหยีตาหรือเพ่งสายตา : ในขณะที่เราทำงานจ้องคอมพิวเตอร์นานๆ อาจไม่รู้ตัวว่าชอบหยีตา เพื่อเพ่งจอให้มองเห็นชัดมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหางตา 

• ✿ เครียดจนเกินไป : อีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อเวลาเราเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รวมไปถึงการแสดงท่าทางความเครียดอย่างคิ้วขมวด ก็ทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหางตาได้เช่นกัน 

วิธีป้องกันการเกิดผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย 

1. ✿ ใช้ครีมบำรุงผิวให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพราะผิวที่แห้งขาดน้ำและไม่ได้รับการบำรุงที่ดี จะทำให้ผิวบริเวณใบหน้าเกิดริ้วรอยและร่องลึกได้ง่าย โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีอายุเลข 3 ขึ้นไป ดังนั้นเราจึงควรแก้ไขปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ ด้วยการบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส อิ่มฟู และสุขภาพดีตลอดเวลา 

1. ✿ ใช้ครีมกันแดดเสมอ เนื่องจากแสงแดดทำลายผิวให้เสื่อมลงได้อย่างรวดเร็ว 

1. ✿ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, vitamin A acid, การทำ AHA treatment มีหลักฐานว่าสามารถกระตุ้นการสร้างสาร collagen และ elastin ในผิวหนัง เป็นการลดและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ 

1. ✿ ทานอาหารที่ครบถ้วน มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากทานอาหารได้ไม่ครบถ้วนอาจเสริมด้วยการทานวิตามินหรือสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-free radicals) เช่น vitamin E, vitamin C, beta-carotene เป็นต้น 

1. ✿ นอกจากนี้แล้วควรจะพยายามผ่อนคลาย ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงมลภาวะต่างๆ เท่าที่ทำได้