ผลิตภัณฑ์สำหรับ พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing) ที่เราแนะนำ● พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผลกับชนิดของแผล
✿ พลาสเตอร์ชนิดพิเศษแบบปิดแน่นหรือกึ่งปิดแน่น แพทย์อาจแนะนำให้ใช้พลาสเตอร์ชนิดนี้กับแผลที่มีขนาดใหญ่ เพื่อคงความชุ่มชื้นและลดการเกิดรอยแผลเป็น โดยพลาสเตอร์แต่ละชนิดเหมาะกับการใช้งานแตกต่างกันไปตามลักษณะ ประเภท และบริเวณที่เกิดแผล ทั้งนี้ ผู้ใช้ควรเลือกพลาสเตอร์ให้เหมาะสม โดยพิจารณาจากบาดแผลที่เกิดขึ้น ดังนี้ ✿ แผลเปิด บาดแผลที่ฉีกขาดเล็กน้อยสามารถใช้พลาสเตอร์แบบผีเสื้อปิดตามแนวขวาง แต่หากเป็นแผลยาว ลึก หรือมีเลือดออกมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาและเย็บปิดบาดแผลอย่างเหมาะสม ✿ แผลบนใบหน้า หากแผลมีขนาดเล็กอาจไม่จำเป็นต้องปิดพลาสเตอร์ หรืออาจใช้พลาสเตอร์ปิดแผลแบบแถบกาว แต่หากแผลมีขนาดใหญ่และลึกมาก อาจจำเป็นต้องเย็บแผลเพื่อห้ามเลือด ลดการติดเชื้อ และช่วยให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น ✿ แผลจากของมีคมบาดมือหรือเท้า แผลชนิดนี้มีโอกาสสัมผัสสิ่งสกปรกมากกว่าแผลบริเวณอื่น ๆ และอาจเสียดสีกับถุงเท้าหรือรองเท้าจนเกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้น ควรปิดแผลด้วยพลาสเตอร์และเปลี่ยนพลาสเตอร์ทุกครั้งที่เริ่มเปียกหรือสกปรก แต่หากแผลลึกมาก ควรไปพบแพทย์ เพราะแผลอาจเสี่ยงติดเชื้อได้ ✿ แผลบนข้อนิ้ว นิ้วมือ และส้นเท้า การปิดแผลบริเวณเหล่านี้อาจทำให้พลาสเตอร์หลุดออกได้ง่าย เนื่องจากเป็นอวัยวะส่วนที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ควรปิดแผลไว้เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ โดยควรใช้พลาสเตอร์รูปทรงนาฬิกาทราย หรือตัวเอช (H) ซึ่งเหมาะกับการปิดแผลตามข้อต่อของร่างกายและแผลบริเวณปลายนิ้วมือ และช่วยป้องกันการเกิดรอยย่นซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พลาสเตอร์หลุดออกได้ง่าย ✿ เข่าหรือข้อศอกถลอก อาจปิดรอยแผลถลอกบริเวณหัวเข่าหรือข้อศอกด้วยพลาสเตอร์ขนาดใหญ่ หรือพลาสเตอร์ปิดแผลแบบแถบกาวที่มี 4 แฉก เนื่องจากพลาสเตอร์ชนิดนี้ติดแน่นและป้องกันการหลุดออกได้ดี นอกจากนี้ อาจใช้พลาสเตอร์แบบเหลว ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยหยุดเลือด ปกป้องแผลจากน้ำและสิ่งสกปรกเพื่อลดการติดเชื้อ ✿ แผลถลอกขนาดใหญ่ การทายาฆ่าเชื้อหรือใช้พลาสเตอร์ที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นจะช่วยให้แผลลักษณะนี้หายเร็วขึ้น หากแผลไม่ตกสะเก็ดและยังเป็นแผลสดอยู่ ควรล้างทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาด ปิดพลาสเตอร์อย่างสม่ำเสมอ และสังเกตว่าแผลมีการติดเชื้อหรือไม่ ✿ แผลพุพอง แผลที่มีตุ่มน้ำอาจไม่จำเป็นต้องรักษาหรือปิดพลาสเตอร์ เนื่องจากแผลชนิดนี้สามารถหายเองได้ หากมีแผลพุพองบริเวณที่เกิดการเสียดสีได้ง่าย เช่น ฝ่าเท้า อาจใช้ผ้าก๊อซเนื้อนุ่มปิดแผลเพื่อป้องกันการกดทับ หากตุ่มน้ำแตกและของเหลวไหลออกจากแผลแล้ว จึงค่อยใช้พลาสเตอร์ปิดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ✿ แผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก หากอาการไม่รุนแรงมากสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง โดยควรล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำเย็นแล้วใช้ยาฆ่าเชื้อทาบาง ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ห้ามใช้น้ำมันหรือแป้งทาลงบนแผลเด็ดขาด จากนั้นปิดแผลด้วยผ้าก๊อซแล้วใช้เทปกาวปิดทับเพื่อยึดไม่ให้ผ้าก๊อซที่ปิดไว้หลุด แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้พลาสเตอร์ปิดแผลชนิดนี้เพราะมีเนื้อกาวเหนียวที่อาจสัมผัสกับบาดแผล
● อุปกรณ์ทำแผล จากการติดตามผู้ป่วยบางรายที่มาพบแพทย์ตามนัด พบว่ายังมีผู้ป่วยเกิดการอักเสบติดเชื้อที่แผล ภายหลังการผ่าตัด และหลังทำหัตถการ ซึ่งสาเหตุการติดเชื้อที่พบเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจ และขาดประสบการณ์ในการดูแลแผลที่เท้าของผู้ป่วยและผู้ดูแล รวมทั้งการล้างแผลไม่ถูกวิธี ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วย เพิ่มระยะเวลาการรักษา เกิดความวิตกกังวล บางรายอาจสูญเสียอวัยวะได้หากมีอาการติดเชื้อที่รุนแรงมาก เพื่อลดภาวะเสี่ยงในการติดเชื้อ และสูญเสียอวัยวะในภายหลัง การล้างแผลที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ
การล้างแผลแบบแห้ง ใช้สำหรับล้างแผลสะอาด แผลปิด แผลที่ไม่มีการอักเสบ เป็นแผลเล็กๆ การล้างแผลแบบเปียก ใช้สำหรับล้างแผลที่มีลักษณะเป็นแผลเปิด แผลอักเสบติดเชื้อ การปิดแผลขั้นแรกจะใช้วัสดุที่มีความชื้น เช่น ผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือ (0.9% normal saline) ปิดไว้ แล้วปิดด้วยผ้าก๊อซแห้งอีกครั้ง
เพื่อให้แผลมีสภาวะที่ดี เหมาะแก่การงอกของเนื้อเยื่อดูดซึมสารคัดหลั่ง เช่น เลือด น้ำเหลือง หนอง
✿ ระวังไม่ให้แผลถูกน้ำ หรือเปียกชุ่ม หากแผลชุ่มมากควรเปลี่ยนผ้าปิดแผลใหม่ทันที
เอกสารอ้างอิง |