แบรนด์
บทความ
ไมเกรน (Migraine)
แผลกดทับ (Bed Sore)
เส้นเลือดขอด (Varicose Vein)
ภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Allergy)
ริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids)
กระดูกพรุน (Osteoporosis)
ความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ (Dementia /Alzheimers)
เก๊าท์ (Gout)
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ท้องผูก (Constipation)
กรดไหลย้อน (GERD)
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ (Respiratory allergy)
ตาแห้ง (Dry eyes)
สิว (Acne)
ผมร่วง (Hair Loss)
เวชสำอางสำหรับสิว (Acne Dermocosmetics)
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)
ผิวริ้วรอย..แก่ก่อนวัย (Wrinkle Skin)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
แผ่นมาส์กผิวหน้า (Facial mask)
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
แชมพูกำจัดรังแค (Anti-Dandruff Shampoo)
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง (Anti-Hair loss Shampoo)
หนังศีรษะบอบบาง (Sensitive scalp Shampoo)
ผิวแตกลาย (Anti Stretch Mark)
ผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้น
กลุ่มอโรมาเธอราพี (Aromatherapy)
บำรุงรอบดวงตา
ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็ก
สเปรย์น้ำทะเล เจือจางพ่นหรือล้างจมูก
อุปกรณ์ล้างจมูก (Nasal Rinsing System)
น้ำเกลือ (Normal Saline)
อุปกรณ์วัดออกซิเจนปลายนิ้ว (Fingertip Oximeter)
ถุงให้อาหาร (Nutrition Bag)
เครื่องวัดความดัน (Blood Pressure Monitor)
ที่นอนลม (Mattress)
เบาะเจลป้องกันแผลกดทับ Anti-Bedsore Gel Cushion
รถเข็นผู้ป่วย (Wheel Chair)
เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor)
พลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผล (Bandage&Wound Dressing)
อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Support)
แผ่นแปะเท้าและแก้ปวดเมื่อย (Foot Pads and Medicated Plaster)
ทิชชู่เปียกและผ้าเปียก (Cleansing Wipes)
แป้นถ่ายติดหน้าท้อง พร้อมถุงถ่ายหน้าท้อง (Valore Fianges Ring Size)
สารอาหาร
กระชายดำ (Krachaidum)
เห็ดหลินจือ (Reishi)
ผลกุหลาบป่า (Rose Hip)
หลินจือสกัด (Lingzhi Extract)
D-Manose
Licorice (Glycyrrhiza glabra)
แอล-ซิสเทอีน L-Cysteine
สารสกัดจากมิลเลท Millet Extract
วาเลอเลียน (Valerian)
ทีทรีออยล์ (Tea tree oil)
วิตามินรวม (Multi-Vitamins)
Echinacea (เอคไคเนเชีย) คืออะไร? สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันและบรรเทาอาการหวัด
คอนโดรอิติน (Chondroitin)
น้ำมันโบราจ Borage Oil
สารสกัดเมล่อน Melon Extract (SOD)
วิธีสั่งซื้อ
พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คือใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยในลำไส้เล็ก แต่จะไปเป็นอาหารของโปรไบโอติกในลำไส้ใหญ่ ส่งผลให้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์เติบโตและทำงานได้ดีขึ้น พบได้ในผัก ผลไม้ หัวหอม กระเทียม และถั่วต่าง ๆ การรับประทานพรีไบโอติกช่วยเสริมสุขภาพลำไส้ รักษาสมดุลจุลินทรีย์ ยับยั้งเชื้อก่อโรค กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ อีกทั้งยังทำงานร่วมกับโปรไบโอติกเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการดูแลระบบทางเดินอาหาร
คืออาหารชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งไม่มีชีวิต ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก มีหน้าที่ในการช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาหารเหล่านี้จึงสามารถเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ได้ในรูปไม่เปลี่ยนแปลง และจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียโพรไบโอติกส์ ทำให้กระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของแบคทีเรีย พบได้ในหัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง ถั่วแดง ไฟเบอร์ในผักและผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น
พรีไบโอติกเป็นอาหารของโพรไบโอติกส์นั่นเอง ดังนั้นหากรับประทานอาหารพวกพรีไบโอติกส์ก็จะช่วยส่งเสริมฤทธิ์โพรไบโอติกส์ได้ดียิ่งขึ้น
✿ ป้องกันไม่ให้เชื้อก่อโรคจับที่ผิวเยื่อบุลำไส้ โดยการสร้างเกราะป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้
✿ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อฉวยโอกาสในร่างกาย
✿ กระตุ้นระบบการย่อยอาหารโดยการสร้างเอนไซม์หลากหลายชนิด
✿ ช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายที่เสียไป
✿ เหนี่ยวนำการกระตุ้นการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ทำให้มีการสร้างสารป้องกันและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เข้าสู่ภาวะสมดุลได้
✿ ช่วยกระตุ้นการทำงานของแมกโครเฟจ(macrophages) ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในทางเดินอาหารดีขึ้น
✿ ช่วยดูดซับสารพิษในทางเดินอาหาร ไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายง่าย ปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้
✿ ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนัก ใยอาหารพรีไบโอติกจะถูกหมักด้วยจุลินทรีย์ในลำไส้ เกิดเป็นกรดไขมันสายสั้น กระตุ้นการหลั่งสาร GLP-1 ในกระแสเลือด ทำให้สมองรับรู้ความรู้สึกอิ่มและสบายท้อง
✿ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคระบบหัวใจ และโรคหลอดเลือด ช่วยดักจับไขมันและน้ำตาลในทางเดินอาหาร ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันช้าลง
✿ ควรทานก่อนอาหารเช้าตอนท้องว่าง ร่างกายพร้อมดูดซึมสารอาหารใหม่ ทานตอนเช้าพร้อมน้ำหนึ่งแก้ว เพื่อช่วยกระตุ้นแบคทีเรียในร่างกายให้ทำงานได้อย่างดี
✿ หลังจากทานไปแล้ว ให้รอ 10 - 15 นาที แล้วค่อยทานอาหารเช้าตาม เพราะว่าน้ำย่อยจะทำลาย Probiotic ที่เราทานลงไปถึงร้อยละ 10-15 ทีเดียว
✿ ยาปฏิชีวนะ ให้กินหลังจากที่กิน Probiotic ไปแล้ว 3 ชั่วโมง
1. โพรไบโอติกส์จัดเป็นจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่นหรือ normal flora อย่างหนึ่งในทางเดินอาหาร หากร่างกายมีสุขภาพดีก็จะมีการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ให้เป็นปกติ แต่ถ้าหากมีอะไรไปรบกวนสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย จุลินทรีย์ประจำถิ่นในลำไส้ถูกรุกราน อาจเกิดผลกระทบตามมาได้ ลองจินตนาการดู หากร่างกายได้รับยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลานาน ยาเหล่านี้ส่งผลให้จุลินทรีย์ในร่างกายมีจำนวนลดลง เมื่อร่างกายมีการรับเชื้ออื่นซึ่งอาจก่อโรคเข้ามา อาจมีโอกาสสูญเสียจุลินทรีย์ดีในร่างกายได้
ดังนั้นการสร้างสภาวะความสมดุลระหว่าง normal flora และร่างกายนั้นจึงมีความสำคัญ ซึ่งการรับประทานโพรไบโอติกส์จึงเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งในการเสริมจุลินทรีย์ชนิดดีและรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย
ในปัจจุบันโพรไบโอติกส์ที่เราพบเห็นกันได้ในท้องตลาดมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบผงแป้ง (Powders), รูปแบบแคปซูล (Capsules), รูปแบบยาเม็ดเคี้ยว (Chewable tablets), รูปแบบสารละลาย(Solution drops) หรือรูปแบบยาเหน็บช่องคลอด (Vaginal Tablets) โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีวีธีการเก็บรักษาและประกอบไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์ที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเชื้อที่พบเห็นได้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ดังนี้
✿ เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ กลุ่ม Lactobacillus spp. เป็นแบคทีเรียที่เกาะติดลำไส้และ Bifidobacterium spp. เป็นแบคทีเรียที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร สามารถอยู่ในลำไส้ได้นาน เช่น Bifidobacterium longum, Bifidobacterium bifidum, Lactobacillus acidophilus, Bifidobacterium infantis, Lactobacillus casei subsps, และ Lactococcus lactis เป็นต้น
✿ เชื้อยีสต์ เช่น Saccharomyces boulardii เป็นต้น
โพรไบโอติกส์มีบทบาทมากมายที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ในร่างกาย ดังนี้
✿ ป้องกันไม่ให้เชื้อก่อโรคจับที่ผิวเยื่อบุลำไส้ โดยการสร้างเกราะป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้
✿ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อฉวยโอกาสในร่างกาย
✿ กระตุ้นระบบการย่อยอาหารโดยการสร้างเอนไซม์หลากหลายชนิด
✿ ช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายที่เสียไป
✿ เหนี่ยวนำการกระตุ้นการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ทำให้มีการสร้างสารป้องกันและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เข้าสู่ภาวะสมดุลได้
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
สินค้าของแท้
ส่งเร็วทันใจ
เปลี่ยน/คืนได้ภายใน 14 วัน
รีวิวมากมายจากผู้ใช้จริง