365

WECARE

กระเทียมดำ B-Garlic กระเทียมโทนสดอบ 60g.

ลดความเสี่ยงการอุดตันหลอดเลือดลดระดับน้ำตาล

กระเทียมดำดีกว่ากระเทียมสดถึง 13 เท่าเมื่อรับประทานกระเทียมดำเข้าไปไม่มีผลกระทบระคายเคืองต่อระบบการย่อยอาหาร

รหัสสินค้า: 24432-P

เลขที่จดแจ้ง / เลข อย. :51-2-02060-6-0002

สถานะ: มีสินค้าใน stock

เลือกจำนวน :

1 ชิ้น

ราคา 408 ฿630

35 %

linebutton_qalinebutton_share

รายละเอียดสินค้า

กระเทียมดำ B-Garlic กระเทียมโทนสดอบ 60g.

บี การ์ลิค  B-Garlic

กระเทียมดำ

ผลิตโดยผ่านกระบวนการอบที่อุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมโดยใช้เวลาถึง 30-90 วัน สิ่งที่พบ กลับเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า ยิ่งกว่ากระเทียมขาวๆ ถึง 13 เท่า สารอาหารที่เคยอยู่ในกระเทียมขาวๆนั้นยังอยู่เช่นเดิม แต่กลิ่นฉุนและเผ็ดร้อนของกระเทียมสดได้แปรเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่มีความเสถียรขึ้นคือ

-S-allycysteine(SAC) ในกระเทียมดำซี่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูล ลดคลอเรสเตอรอล และป้องกันมะเร็ง

-S-allyl melcaptocystein(SAMC) ในกระเทียมดำซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันมะเร็ง

-Y-Aminobutyric acid(GABA) ในกระเทียมดำซึ่งเป็นสารประกอบอินทรย์ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ในระบบประสาทของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีคุณสมบัติเสริมสร้างสมอง และป้องกันความผิดปกติของระบบประสาท

ทำให้สามารถกล่าวได้ว่า สรรพคุณของกระเทียมดำ Black Garlic นั้นดีกว่ากระเทียมสด ถึง 13 เท่า แถมเมื่อรับประทานกระเทียมดำ Black Garlic เข้าไปไม่มีผลกระทบระคายเคืองต่อระบบการย่อยอาหารเลย

 

วิธีรับประทาน B-Garlic ให้ได้ประโยชน์สูงสุด 

-ทานตอนเช้า ในขณะที่ท้องว่าง (เพียงครั้งเดียว) 

-ทานครั้งละ 2-3หัว: เพื่อขับพิษทั่วไปไม่ได้ป่วยเป็นโรค  

-ทานครั้งละ 4-6 หัว: เพื่อลดความดัน เบาหวาน ลดคลอเรสเตอรอล ไขมัน  

-เนื่องจาก B-Garlic เป็นนวัตกรรมจากสมุนไพรธรรมชาติ และไม่ใช้สารเคมีใดๆใน

กระบวนการผลิต จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ

“กระเทียมดำ (Black Garlic)” ได้ถูกคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเอเชีย ที่พยายามกำจัดกลิ่นฉุนและ รสชาดที่ไม่พึ่งประสงค์ในกระเทียม รวมทั้งกำจัดอาการผิดปกติเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร และการย่อยอาหาร อันเนื่องมาจากการ บริโภคกระเทียมสด โดยผ่านกระบวนการอบที่อุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมโดยใช้เวลาถึง 30-90 วัน สิ่งที่พบ กลับเป็นสิ่งที่มี คุณค่ามากกว่า ยิ่งกว่ากระเทียมขาวๆ ถึง 13 เท่า สารอาหารที่เคยอยู่ในกระเทียมขาวๆนั้นยังอยู่เช่นเดิม แต่กลิ่นฉุนและเผ็ดร้อน ของกระเทียมสดได้แปรเปลี่ยนเป็นสารประกอบที่มีความเสถียรขึ้น

กระเทียมดำมีผลต่อการลดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด เนื่องจากสารเอส-อัลลิล-แอล-ซีสเทอีน ในกระเทียมดำจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้ดียิ่งขึ้น

สารอัลลิซินในกระเทียมดำช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างน้ำตาลกลูโคสจากตับ ส่งผลให้การเพิ่มระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดลดลง เมื่อไฟโตนิวเทรียนท์ในกลุ่มออร์แกโนซัลเฟอร์ ดูดซึมสู่กระแสเลือดก็จะ ขัดขวางการรวมตัวของน้ำตาลกลูโคสกับเม็ดเลือดแดงฮีโมโกลบิน และ ขัดขวางการรวมตัวของน้ำตาลกลูโคสกับโปรตีนที่อยู่บริเวณผนังหลอดเลือดแดงทั้งในไตและหัวใจ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันหลอดเลือด โรคไตและโรคหัวใจของผู้ป่วยเบาหวาน

มีการศึกษาว่า หากผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทานกระเทียมดำขนาด 300 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน จะมีระดับน้ำตาลกลูโคสหลังอดอาหารลดลงถึง 32% และมีระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ลดลง 22%เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่ได้รับประทานกระเทียมดำ12ทั้งนี้การรับประทานกระเทียมดำเพื่อลดระดับน้ำตาลกลูโคสและไขมันในหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจำเป็น ต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กัน

กระเทียมสามารถป้องกันการเกิด

1. โรคหัวใจ (Heart disease)

มีหลักฐานบางอย่างสนับสนุนว่า กระเทียมอาจป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจได้ โดยลดการเกิดเส้นเลือดแข็ง (artherosclerosis) และสามารถลดระดับความดันลงได้เล็กน้อย (ระหว่าง 7% ถึง 8%) นอกจากนั้น กระเทียมยังเป็นสารต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือด ด้วยการทำให้เกล็ดเลือดบางลง ซึ่งอาจป้องกันไม่เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack) หรือ สมองขาดเลือด (stroke)

2. โรคหวัด (Common cold)

กระเทียมสามารถช่วยป้องกันการเกิดหวัด (common cold) ได้ โดยมีการศึกษาเปรียบเทียบการใช้กระเทียม ในระยะที่มีหวัดระบาด (common cold) ผลปรากฏว่า คนที่รับประทานกระเทียมจะเป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่รับประทานกระเทียมเลย นอกจากนั้น ในระหว่างเป็นหวัด กระทียมสามารถทำให้อาการของหวัดหายเร็วด้วย

3. โรคมะเร็ง (Cancer)

กระเทียมช่วยเสริมให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น สามารถช่วยร่างกายให้ต่อสู้กับมะเร็งได้ผลจากการศึกษา กลุ่มคนที่รับประทานกระเทียมสด หรือกระเทียมที่ปรุงในอาหาร ทำให้มีแนวโน้มที่จะไม่เกิดเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งของลำไส้ใหญ่ (colon)และมะเร็งกระเพาะ (CA stomach)ผลจากการศึกษา พบว่า คนที่กินกระเทียมสด หรือกระเทียมปรุงแล้ว สามารถลดการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ถึง 30% 

กระเทียมมีสารต้านอนุมูล (Antioxidants)

ซึ่งอนุมูลอิสระ (free radicals) อาจมีบทบาทสำคัญต่อการทำให้คน “แก่” เร็วขึ้น ตลอดรวมไปถึงการทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย รวมถึงโรคหัวใจ และมะเร็ง

กระเทียมสามารถทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวที่สามารถทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ (cell membranes) และ DNA ได้ดี

 อย.51-2-02060-6-0002

shopping_cart
0